สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

5 นาทีในการอ่าน
สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต
โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

เมื่ออายุมากกว่า 50 ปี เลนส์แก้วตาเสื่อมลง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มองไม่ชัด ตาพร่ามัวเหมือนมีฝ้าหรือหมอกบัง มองเห็นสีต่าง ๆ ผิดเพี้ยน การตรวจเช็กความผิดปกติของดวงตาคือสิ่งสำคัญ เพราะหากพบว่าเป็นต้อกระจก การรักษาโดยเร็วและเหมาะสมโดยจักษุแพทย์ผู้ชำนาญกาช่วยให้กลับมามองเห็นชัดอีกครั้งอย่างมีคุณภาพ

 

สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

ผ่าตัดต้อกระจกคืออะไร

การผ่าตัดต้อกระจกเป็นหนึ่งในการผ่าตัดตาที่ทำกันมากที่สุด โดยเป็นการนำเลนส์ธรรมชาติที่ขุ่นมัว (ต้อกระจก) ออก และใส่เลนส์แก้วตาเทียม (Intraocular Lens, IOL) แทน ซึ่งการผ่าตัดต้อกระจกสมัยใหม่ด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์สลายต้อ (Phacoemulsification) นอกจากช่วยฟื้นฟูการมองเห็นที่ชัดเจนยังสามารถแก้ไขค่าสายตาเดิม เช่น สายตาสั้น ยาว เอียง หรือสายตาผู้สูงอายุ ช่วยลดการพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ แต่ต้องเลือกเลนส์เทียมที่ใช้ให้เหมาะสม

สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

เลนส์แก้วตาเทียมมีกี่ประเภท

เลนส์แก้วตาเทียมมี 3 ประเภทหลัก ได้แก่

  1. เลนส์ชัดระยะเดียว (Monofocal IOL) มีระยะชัดเพียงที่เดียว มักเลือกให้ชัดที่ไกลทั้ง 2 ตา มองใกล้ต้องใส่แว่นอ่านหนังสือ เป็นเลนส์มาตรฐานและคุ้มค่า มีโอกาสเกิดแสงรบกวนในที่มืดน้อย เลนส์กลุ่มนี้สามารถใส่เลนส์แบบ Customized Monovision โดยกำหนดให้ตาข้างหนึ่งชัดที่ระยะไกลอีกข้างมองระยะใกล้

    สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

  2. เลนส์ชัดหลายระยะ (Multifocal IOL) ปัจจุบันเป็นเลนส์ชัด 3 ระยะ (Trifocal IOL) การออกแบบจะมีวงหลาย ๆ วงในเนื้อเลนส์ หลังผ่าตัดสามารถมองชัดด้วยตาเปล่าในหลาย ๆ ระยะ ทั้งใกล้ กลาง ไกล ลดการพึ่งแว่นตาเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการใส่แว่นตา แต่มีโอกาสเกิดแสงรบกวนในที่มืด อาการมักดีขึ้นแต่ใช้เวลาปรับตัวในแต่ละบุคคล



  3. เลนส์เพิ่มระยะ / ยืดระยะโฟกัส (Extended Depth of Focus IOL – EDOF IOL) มองเห็นได้หลายระยะต่อเนื่อง ตั้งแต่ระยะไกลถึงระยะกลาง เช่น ขับรถ ใช้คอมพิวเตอร์ มองใกล้พอได้บ้าง ลดการพึ่งพาแว่น แต่อาจต้องใส่แว่นอ่านหนังสือบ้าง หากอ่านตัวหนังสือเล็กมาก ๆ ปัจจุบันมีการออกแบบเลนส์กลุ่มนี้ในรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งไม่เป็นวงหลาย ๆ วง ทำให้มีโอกาสเกิดแสงรบกวนในที่มืดน้อยกว่าเลนส์หลายระยะ

    สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

เลนส์แก้วตาเทียมเลือกอย่างไรให้เหมาะสม

สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

เลนส์แก้วตาเทียมแก้ไขสายตาเอียงเป็นอย่างไร

เลนส์แก้วตาเทียมแก้สายตาเอียงไปในตัว (Toric IOL) สำหรับผู้ที่มีภาวะสายตาเอียงจากกระจกตาโค้งไม่เท่ากัน คล้ายลูกรักบี้ ซึ่งสามารถทราบได้จากการตรวจประเมิน โดยจักษุแพทย์จะแนะนำให้ใส่เลนส์ที่แก้สายตาเอียงร่วมด้วยเป็น Option เสริมเพิ่มในตัวตามที่คนไข้เลือกในประเภทหลัก 3 ประเภทที่กล่าวไปข้างต้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาสายตาเอียงไปในตัว ลดการต้องใส่แว่นตาเพื่อแก้สายตาเอียงที่เหลือหลังผ่า ทำให้ภาพคมชัดตามคุณสมบัติของเลนส์หลักที่เลือก ซึ่งการพิจารณาใส่เลนส์แก้วตาเทียมสายตาเอียงจักษุแพทย์จะดูค่าความโค้งหรือสายตาเอียงตามตาแต่ละข้างเป็นหลัก อาจไม่ได้สัมพันธ์โดยตรงกับสายตาเอียงเดิมก่อนผ่า

สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

คนปกติกระจกตาโค้งใกล้เคียงกันในแต่ละแกน รูปทรงคล้ายลูกบอลหรือบาสเกตบอล แต่คนที่มีสายตาเอียงจากกระจกตาโค้งไม่เท่ากันรูปทรงจะโค้งคล้ายรักบี้หรือไข่

เลนส์แก้วตาเทียมแก้สายตาเอียงมีกี่ประเภท

เลนส์แก้วตาเทียมแก้สายตาเอียงมี 3 ประเภท ได้แก่

  1. เลนส์ชัดระยะเดียวแก้สายตาเอียง (Monofocal Toric IOL) หลังมองไกลชัดเจนแก้สายตาเอียง แต่มองใกล้ยังต้องใส่แว่นอ่านหนังสือ
  2. เลนส์ชัดหลายระยะแก้สายตาเอียง (Multifocal Toric IOL) ปัจจุบันชัด 3 ระยะแก้สายตาเอียง (Trifocal Toric IOL) หลังผ่าตัดสามารถมองได้ชัดเจนในหลาย ๆ ระยะ ใกล้ กลาง ไกล ลดการพึ่งพาแว่นได้
  3. เลนส์เพิ่มระยะ / ยืดระยะโฟกัสแก้สายตาเอียง (Extended Depth of Focus Toric IOL – EDOF Toric IOL) มองเห็นได้หลายระยะ ระยะชัดจะตั้งแต่ระยะไกลถึงระยะกลาง และใกล้พอได้บ้าง แก้สายตาเอียงได้

สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

เตรียมตัวผ่าตัดต้อกระจก

การผ่าตัดต้อกระจกส่วนใหญ่ใช้ยาชาเฉพาะที่ หลังผ่าจึงสามารถกลับบ้านได้หลังผ่าตัด ไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล โดยการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดต้อกระจก ได้แก่

  • ใส่เสื้อสวมสบายถอดใส่ง่าย
  • สระผมและล้างหน้าก่อนมาถึงโรงพยาบาล
  • เมื่อมาถึงโรงพยาบาลจะมีการเตรียมผ่าตัด โดยการหยอดยาชา ยาขยายม่านตา และยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าห้องผ่าตัด โดยยาชาเฉพาะที่มีทั้งการหยอดยาชาหรือฉีดยาชาเข้าไปด้านหลังลูกตา (ทำในห้องผ่าตัด) แต่ถ้ากลัวการผ่าตัด กลัวที่แคบหรือกังวลสามารถปรึกษาแพทย์ตั้งแต่วันตรวจตาและเลือกผ่าแบบดมยาสลบได้
  • ขณะผ่าตัดสลายต้อกระจกจะใช้เวลาประมาณ 15 – 30 นาที โดยทำในห้องผ่าตัดใหญ่ปลอดเชื้อ ผู้ป่วยจะรู้ตัวขณะผ่าตัด แต่จะรู้สึกผ่อนคลายและไม่เจ็บ อาจเห็นแสงและการขยับไปมาของแสง หรือรู้สึกโดนกดตา แต่ไม่เจ็บเหมือนโดนมีดบาด
  • หลังผ่าตัดต้อกระจกเสร็จเรียบร้อย ผู้ป่วยจะพักในห้องพักฟื้นประมาณ 30 นาทีแล้วจึงกลับบ้านได้ ในกรณีที่ไม่ได้ให้ยาสลบ กินยาตามที่แพทย์สั่ง แต่ยังไม่ต้องเปิดตาหยอดยา แพทย์จะนัดมาเปิดตา ตรวจตาหลังผ่าตัดวันรุ่งขึ้น และเริ่มหยอดยา

สลายต้อกระจกใส่เลนส์แก้วตาเทียม (IOL) ตอบโจทย์การใช้ชีวิต

การดูแลหลังผ่าตัดต้อกระจกทำอย่างไร

  • สวมแว่นตากันลมหรือแว่นตากันแดดเพื่อป้องกันการขยี้ตาและป้องกันการเกิดการกระทบกระเทือนที่ดวงตา
  • ก่อนนอนให้ครอบตาข้างที่สลายต้อกระจกด้วยฝาครอบตา เพื่อป้องกันการขยี้ตา กระแทกในระหว่างการนอนอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ระวังอย่าให้ตาข้างนั้นโดนกระแทกโดยตรงอย่างรุนแรง
  • ห้ามน้ำเข้าดวงตาโดยเด็ดขาดตามระยะเวลาที่จักษุแพทย์กำหนด (อย่างน้อย 2 สัปดาห์)
  • ป้องกันเชื้อโรคเข้าดวงตาและเช็ดทำความสะอาดรอบดวงตา โดยใช้น้ำเกลือและสำลีเช็ดตาวันละ 2 ครั้งแทนการล้างหน้าตามวิธีที่จักษุแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
  • งดล้างหน้า สระผมด้วยตนเอง ควรนอนหงายให้ผู้อื่นสระให้และในขณะสระผมควรหลับตาเพื่อป้องกันน้ำที่อาจกระเด็นเข้าดวงตาได้
  • ตรวจตาตามนัดของจักษุแพทย์ทุกครั้ง เช่น หลังผ่าตัด 1 วัน, 1 สัปดาห์, 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน และทุก ๆ ปีหลังผ่าตัด
  • ห้ามยกของหนัก ระวังเรื่องการไอ จาม หรือเบ่งแรง ๆ ช่วง 1 เดือนแรกหลังผ่า

ผลข้างเคียงที่อาจพบหลังผ่าตัดต้อกระจกคืออะไร

  • หลังผ่าตัดระยะแรกต้องระวังเรื่องการติดเชื้อ ซึ่งพบได้น้อยแต่อันตราย การหยอดยา และดูแลความสะอาดตาอย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ลงได้มาก
  • ภาวะจุดรับภาพบวมหลังผ่าตัดเกิดขึ้นได้บ้างหลังผ่าตัดในระยะเกิน 1 – 2 สัปดาห์ไปแล้ว โดยจะมีอาการตามัวลงหรือเห็นภาพเบี้ยว สามารถรักษาและกลับมาเป็นปกติได้
  • หลังผ่าตัดต้อกระจกเป็นระยะเวลานาน ถุงหุ้มเลนส์อาจมีการขุ่นหลังจากใส่เลนส์ไปเป็นเวลาหลายปี สายตาที่เคยเห็นได้ชัดเจนหลังผ่าตัดใหม่ ๆ จะค่อย ๆ มัวลงบ้าง จักษุแพทย์สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่มีความเจ็บปวด ด้วยการใช้เลเซอร์ (Yag Laser) เพื่อขจัดความขุ่นได้ทันที ทำให้กลับมาเห็นชัดเหมือนผ่าตัดใหม่ ๆ

ทำไมต้องรักษาต้อกระจกที่โรงพยาบาลกรุงเทพ

  • จักษุแพทย์ผู้ชำนาญการที่ผ่านการฝึกอบรม มีความชำนาญและมากด้วยประสบการณ์
  • ตรวจประเมินก่อนผ่าตัดอย่างละเอียด ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและทีมสหวิชาชีพ
  • มีเทคโนโลยีเลนส์แก้วตาเทียมรุ่นใหม่ที่ออกแบบตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล
  • ดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การตรวจประเมิน การผ่าตัด จนถึงการติดตามผลหลังผ่าตัด

มากกว่าการรักษาต้อกระจก
คือการมอบคุณภาพการมองเห็นให้กลับไปใช้ชีวิตในแบบที่เป็นคุณ

โรงพยาบาลที่ชำนาญด้านการรักษาต้อกระจกที่ไหนดี

ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมผ่าตัดรักษาต้อกระจกด้วยเลนส์แก้วตาเทียมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต โดยทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางที่มากด้วยประสบการณ์และทีมสหสาขาที่พร้อมดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัยในการผ่าตัดรักษาต้อกระจกเพื่อให้สุขภาพดวงตากลับมาแข็งแรงทุกการมองเห็น

แพทย์ที่ชำนาญการรักษาต้อกระจก

พญ.ธารินี เสงี่ยมพรพาณิชย์ จักษุแพทย์ชำนาญการด้านกระจกตาและผ่าตัดแก้ไขสายตา ต้อกระจก โรงพยาบาลกรุงเทพ
สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง

แพ็กเกจผ่าตัดต้อกระจก

แพ็กเกจผ่าตัดต้อกระจก ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลกรุงเทพ ราคาเริ่มต้นที่ 75,000 บาท

ดูแพ็กเกจผ่าตัดต้อกระจกเพิ่ม คลิก

ข้อมูลโดย

Doctor Image

พญ. ธารินี เสงี่ยมพรพาณิชย์

จักษุวิทยา

พญ. ธารินี เสงี่ยมพรพาณิชย์

จักษุวิทยา

Doctor profileDoctor profile

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลกรุงเทพ

ชั้น 5 อาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพ

เปิดให้บริการ

จันทร์-ศุกร์ 08.00 - 19.00 น.

เสาร์ 08.00 - 17.00 น

อาทิตย์ 08.00 - 16.00 น.