
นิ้วล็อกสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยมักเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การใช้งานซ้ำ ๆ บ่อย ๆ อายุ ฯลฯ พฤติกรรมการใช้มืออย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้ปวดโคนนิ้วมือขณะที่ขยับ งอ เหยียดนิ้วจนเป็นนิ้วล็อก มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะคนทำงานที่ใช้มือตลอดทั้งวันจนแทบไม่ได้หยุดพัก

ไมเกรนเป็นโรคปวดศีรษะชนิดหนึ่งที่มีความซับซ้อนและมีหลายปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการได้ แม้ว่าปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่จากการศึกษาและงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ไมเกรนเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองที่ผิดปกติในหลายส่วน

ไมเกรนเป็นโรคปวดศีรษะชนิดหนึ่งที่มีความรุนแรงสูง ซึ่งอาการปวดไมเกรนไม่เพียงแต่ทำให้เกิดผลกระทบทางร่างกาย แต่ยังส่งผลกระทบในหลายด้านของชีวิต เช่น การเรียน การทำงาน การเข้าสังคม ครอบครัว เป็นต้น

ปัจจุบัน AI เข้ามามีบทบาทด้านการแพทย์และสาธารณสุขมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านรังสีวินิจฉัย AI Mammography เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมจากภาพเอกซเรย์เต้านมหรือแมมโมแกรมให้สามารถวิเคราะห์ผลเชิงลึกได้ชัดเจนในเวลาอันรวดเร็ว

สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบันยังคงมีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กอายุ 6 เดือน - 1 ปี เป็นกลุ่มอายุที่มีอัตราการติดเชื้อสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเด็กโตและผู้ใหญ่ ดังนั้นการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กจึงมีความสำคัญในการป้องกันโรคให้เด็กทุกช่วงวัย

หลายคนรู้จักโรคเบาหวาน แต่สำหรับภาวะก่อนเบาหวานที่ยังไม่ถึงขั้นเป็นโรคเบาหวานอาจเป็นเรื่องที่ถูกละเลย ซึ่งการรู้เท่าทันและดูแลป้องกันเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงลดความเสี่ยงการเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานเรื้อรัง ยังช่วยให้ใส่ใจควบคุมระดับน้ำตาลให้ห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ที่ทำร้ายสุขภาพ

อัลไซเมอร์เป็นภาวะสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยในคนไทย ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก เพราะผู้ป่วยจะหลงลืมในสิ่งที่เคยทำ ลืมเหตุการณ์ต่าง ๆ ลืมคนใกล้ชิด ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติ ต้องมีคนคอยดูแล การรู้ทันความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ด้วยการตรวจยีนจึงเป็นอีกทางเลือกในการตรวจเช็กสมองเพื่อดูแลให้ห่างไกลความเสื่อ

ท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อนเป็นอวัยวะสำคัญที่เมื่อเกิดความผิดปกติย่อมส่งผลกระทบกับร่างกาย ทำให้เกิดอาการผิดปกติและอาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ การส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) จึงมีความสำคัญ เพราะช่วยค้นหาความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ภายในนำไปสู่การดูแลรักษาอย่างถูกต้อง การส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) คืออะไร การส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP : Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography) เป็นขั้นตอนพิเศษที่ใช้ในการวินิจฉัยและรักษาปัญหาเกี่ยวกับตับ, ถุงน้ำดี, ท่อน้ำดี และตับอ่อน โดยใช้การส่องกล้องและการเอกซเรย์ร่วมกันเพื่อตรวจดูพื้นที่เหล่านี้และทำการรักษา เช่น การเอานิ่วออกหรือการใส่ท่อ ใครที่ต้องส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) ผู้ป่วยต้องการตรวจ ERCP ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังนี้ ● นิ่วในท่อน้ำดี: การวินิจฉัยและเอานิ่วในท่อน้ำดีออก ● การตีบของท่อน้ำดี: การประเมินและรักษาการตีบแคบในท่อน้ำดี ซึ่งอาจเป็นการตีบแบบธรรมดาหรือมะเร็ง ● สภาวะของท่อตับอ่อน: การตรวจสอบและรักษานิ่วหรือการตีบในท่อตับอ่อน ● สงสัยมะเร็งท่อน้ำดีหรือตับอ่อน: การตัดชิ้นเนื้อเพื่อวินิจฉัยมะเร็งในบริเวณเหล่านี้ ● ดีซ่านที่ไม่ทราบสาเหตุ: การตรวจหาสาเหตุของดีซ่านเมื่อภาพการตรวจอื่นไม่ชัดเจน ● การติดเชื้อท่อน้ำดี: การจัดการการติดเชื้อในท่อน้ำดี ข้อดีของการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) ● วินิจฉัยถูกต้อง: ให้ภาพและข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับท่อน้ำดีและท่อตับอ่อน ● ความสามารถในการรักษา: สามารถรักษาได้ทันที เช่น การเอานิ่วออก การใส่ท่อ และการขยายการตีบ ● การรุกล้ำน้อย: เมื่อเทียบกับการผ่าตัด ERCP มีการรุกล้ำน้อยกว่าและฟื้นตัวได้เร็วกว่า ● ความสามารถในการตัดชิ้นเนื้อ: สามารถตัดชิ้นเนื้อจากท่อน้ำดีและท่อตับอ่อนไปตรวจทางพยาธิวิทยา เตรียมตัวก่อนส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) อย่างไร ● การอดอาหาร: ผู้ป่วยต้องงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมงก่อนการตรวจเพื่อให้ท้องว่าง ● การทบทวนยา: ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาทั้งหมดที่กำลังรับประทานอยู่ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยารักษาโรคเบาหวาน และอาหารเสริมบางชนิดอาจต้องปรับหรือหยุดชั่วคราว ● ข้อมูลเกี่ยวกับการแพ้: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับอาการแพ้ใด ๆ โดยเฉพาะยาและยาชา ● การประเมินสุขภาพ: การประเมินก่อนการตรวจจะถูกดำเนินการเพื่อทบทวนประวัติทางการแพทย์และปฏิกิริยาที่เคยเกิดขึ้นกับยาระงับความรู้สึกหรือยาชา ● การให้ความยินยอม: ผู้ป่วยต้องให้ความยินยอมในการยอมรับขั้นตอ เพื่อประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ระหว่างการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) เป็นอย่างไร ● การให้ยาระงับความรู้สึก: ผู้ป่วยจะได้รับยาระงับความรู้สึกเพื่อให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย อาจเป็นการให้ยาระงับความรู้สึกที่ยังมีสติหรือการให้ยาชาทั่วไป ● การวางตำแหน่ง: จะถูกวางตำแหน่งให้นอนตะแคงซ้ายหรือนอนคว่ำ ● การใส่กล้องส่อง: แพทย์จะใส่กล้องส่องผ่านทางปากและค่อย ๆ ดันผ่านหลอดอาหาร, กระเพาะอาหาร และเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วนต้น ● การใส่สายสวน: ใช้สายสวนขนาดเล็กเพื่อฉีดสารทึบแสงเข้าไปในท่อน้ำดีและท่อตับอ่อน ● การถ่ายภาพด้วยฟลูออโรสโคปี: ใช้ภาพเอกซเรย์เพื่อดูท่อและตรวจหาความผิดปกติ ● การรักษา: หากจำเป็นจะมีการทำหัตถการ เช่น การเอานิ่วออก, การใส่ท่อ หรือการตัดชิ้นเนื้อ ดูแลหลังส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) อย่างไร ● เวลาฟื้นตัว: ผู้ป่วยจะถูกติดตามในบริเวณฟื้นฟูจนกว่ายาระงับความรู้สึกจะหมดฤทธิ์ ซึ่งปกติใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ● อาหาร: อาจเริ่มด้วยของเหลวใสและค่อย ๆ กลับไปทานอาหารปกติได้ตามที่ทนได้ ● กิจกรรม: หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก ๆ ในวันนั้น ● การติดตาม: ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำเฉพาะเกี่ยวกับเวลาที่จะกลับมาใช้ยาปกติและการนัดติดตามผล ● สัญญาณเตือน: ติดต่อแพทย์หากคุณมีอาการปวดท้องรุนแรง, มีไข้, อาเจียน หรือสัญญาณการติดเชื้อ เช่น รอยแดงหรือบวมที่จุดตัดชิ้นเนื้อ ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) ● ตับอ่อนอักเสบ: เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งมีความรุนแรงตั้งแต่เล็กน้อยถึงรุนแรง ● การติดเชื้อ: มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในท่อน้ำดีหรือตับอ่อน ● การเลือดออก: โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการตัดกล้ามเนื้อระหว่างท่อน้ำดีและท่อตับอ่อน ● การทะลุ: นาน ๆ ครั้งที่กล้องส่องหรือเครื่องมืออาจทำให้เกิดรูในลำไส้เล็ก ท่อน้ำดี หรือตับอ่อน ● ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการให้ยาระงับความรู้สึก: รวมถึงปัญหาทางเดินหายใจหรือปฏิกิริยาแพ้ต่อยาระงับความรู้สึก การตรวจ ERCP (Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography) เป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีการรุกล้ำน้อยใช้ในการวินิจฉัยและรักษาโรคของตับ, ท่อน้ำดี, ถุงน้ำดี และตับอ่อน โดยให้ประโยชน์ด้านการวินิจฉัยและการรักษาที่สำคัญ แต่ก็มีความเสี่ยงบางประการ การเตรียมตัวอย่างถูกต้องและความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอน ประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผลลัพธ์การรักษา แพทย์ที่ชำนาญการส่องกล้องท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) นพ.อรุณ ศิริปุณย์ อายุรแพทย์ด้านการส่องกล้องเพื่อการรักษา ศูนย์โรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพ สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง โรงพยาบาลที่ชำนาญด้านการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) ศูนย์โรคทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมให้การตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาความผิดปกติของตับอ่อนและท่อทางเดินน้ำดี ด้วยการส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) โดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญพยาบาล และทีมสหสาขา พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกวัน

เมื่อเกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารไม่ว่าจะเป็นอวัยวะใดย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แม้อาการอาจไม่รุนแรง แต่รบกวนการใช้ชีวิตได้มากกว่าที่คิด การตรวจส่องกล้องอัลตราซาวนด์เพื่อเช็กความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร (Endoscopic Ultrasound – EUS) จึงไม่เพียงช่วยวินิจฉัยโรค แต่ลดความรุนแรงของโรคก่อนสายเกินไป

เวลาที่มีอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้าย หลายคนมักคิดว่าตนเองเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ซึ่งความจริงอาจไม่ใช่แบบนั้น เพราะฉะนั้นการมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและพบแพทย์เฉพาะทางหัวใจโดยเร็วเพื่อตรวจเช็กคือเรื่องที่ต้องใส่ใจ

หัวใจเต้นช้ากว่าปกติสามารถเกิดขึ้นได้ สิ่งสำคัญคือการสังเกตตนเอง ไม่ละเลยอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย และรีบพบแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจเพื่อทำการตรวจรักษาโดยเร็ว

เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อย ปัจจุบันพบผู้ป่วยเบาหวานกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก สำหรับในประชากรไทยพบผู้ป่วยเบาหวานสูงถึง 3.2 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.4 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ และจำนวนผู้ป่วยยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกประเทศทั่วโลก