โรคเบาหวานกับโรคหัวใจ อันตรายแค่ไหน หากติดเชื้อโควิด-19

4 นาทีในการอ่าน
โรคเบาหวานกับโรคหัวใจ อันตรายแค่ไหน หากติดเชื้อโควิด-19
โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ

ผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคหัวใจ หากติดโควิด-19 มักจะพบความเสี่ยงที่จะทำให้อาการรุนแรง แม้ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มากกว่าคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ ประกอบกับมีโรคร่วม รวมถึงผู้ป่วยโรคหัวใจ หากติดเชื้อโควิด-19 ก็มีโอกาสที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าวจึงควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อป้องกันโควิด-19


โรคเบาหวานกับโควิด-19

พญ.รัตนพรรณ สมิทธารักษ์ อายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อ ศูนย์เบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลกรุงเทพกล่าวว่า คนที่เป็นโรคเบาหวานอยู่เดิม ไม่ได้มีข้อมูลว่าสามารถติดโควิด-19 ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป แต่สิ่งที่คนไข้เบาหวานควรให้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากหากติดเชื้อโควิด-19 คือ

  1. ผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี จะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากระดับน้ำตาลที่สูงกว่าค่าปกติ ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานลดลง ร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ไม่ดี เชื้อไวรัสสามารถเติบโตและกระจายตัวได้ง่ายขึ้น
  2. ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีโรคร่วม หากติดเชื้อโควิด-19 มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากขึ้นหรือมีผลข้างเคียงเพิ่มขึ้นได้
  3. ปฏิกิริยาการอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะทำให้การควบคุมโรคเบาหวานทำได้แย่ลง ร่างกายจะมีปฏิกิริยาต่อต้านไวรัสและเกิดการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดยิ่งสูงขึ้น กระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน

ทั้งนี้มีข้อมูลว่า คนไข้โรคเบาหวานหากติดเชื้อโควิด-19 จะมีอัตราการเสียชีวิตสูงและมีโอกาสเสียชีวิต 2 – 3 เท่าในคนทั่วไป จึงเป็นสาเหตุให้ต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น การรักษาผู้ป่วยเบาหวานหากติดโควิด-19 จะมีขั้นตอนการรักษาเหมือนกับผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วไป เพียงแต่ความซับซ้อนของคนไข้เบาหวาน คือ ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดควบคู่ไปด้วย ยาเม็ดบางตัวอาจมีข้อจำกัด หรือต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง อาจใช้วิธีการปรับยาหรือให้อินซูลินแทนเพื่อช่วยในการรักษา ในคนไข้ที่มีภาวะน้ำตาลสูงมากร่วมด้วย

คุมเบาหวานให้ดี

เนื่องจากคนไข้โรคเบาหวานถือเป็นกลุ่มโรคเรื้อรัง การควบคุมเบาหวานให้ดีมีความจำเป็นอย่างยิ่ง วิธีการคุมเบาหวาน คือ การรับประทานยาควบคุมเบาหวาน ไม่ควรขาดยา กรณีที่ไม่สามารถไปโรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดได้ การตรวจระดับน้ำตาลด้วยตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญคือ ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ในคนไข้เบาหวาน หลอดเลือดมักไม่ค่อยแข็งแรง หากมีโรคเบาหวานร่วมกับโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรเพิ่มความระมัดระวัง

โรคหัวใจกับโควิด-19

นพ.ชาติทนง ยอดวุฒิ อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสทำอันตรายกับระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจที่มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้หากติดเชื้อโควิด-19

คนที่เป็นโรคหัวใจไม่ได้มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่ายกว่าในคนทั่วไป แต่ประเด็นคือ หากติดเชื้อจะอันตรายและอาการของโรคจะรุนแรงได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจชนิดใดก็ตาม หากติดเชื้อ ร่างกายจะมีการตอบสนอง เช่น ไข้ขึ้นสูง มีการสร้างสารจากเซลล์ต่าง ๆ ในระบบภูมิคุ้มกันออกมาเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัส จนอวัยวะในร่างกายเกิดการอักเสบมากขึ้น คนที่เป็นโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจจะมีการบีบตัวที่ผิดปกติอยู่แล้ว ถ้าหากติดเชื้ออย่างรุนแรง อาจทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจแย่ลงอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ เกิดหัวใจล้มเหลวได้

ทั้งนี้เชื้อโควิด-19 เมื่อเข้าสู่ปอดจะส่งผลทำให้ระบบการหายใจของคนไข้เกิดปัญหาการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนในร่างกายไม่เป็นปกติ เกิดภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ นั่นหมายถึง “หัวใจ” ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อพยายามให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เท่าเดิม ดังนั้นในกลุ่มคนที่เป็นโรคหัวใจ หากติดเชื้อไวรัสจะมีอาการรุนแรง ระบบการทำงานของร่างกายเกิดความผิดปกติ เกิดปัญหาในระบบอื่น ๆ ตามมา หรืออาจต้องใช้อุปกรณ์พยุงชีพเพิ่มมากขึ้น เช่น มีการเข้า ICU การใช้เครื่องช่วยหายใจ และระยะเวลาในการรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่าผู้ป่วยทั่วไป การใช้ยากระตุ้นความดัน ซึ่งสถานการณ์แบบนี้อาจส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายแย่ลง และมีอัตราการเสียชีวิตสูง


อาการผู้ป่วยโรคหัวใจกับโควิด-19

อาการของผู้ป่วยโรคหัวใจหากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มต้นไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไปที่ได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น มีไข้ ไอ หอบ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส แต่หากคนไข้โรคหัวใจมีการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง หรือมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง หรือมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น หายใจลำบากมากขึ้น ควรเข้ารับการตรวจแยกอาการอีกครั้งว่าเป็นอาการที่เกิดจากโรคหัวใจหรือสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ดูแลตัวเองให้ห่างไกลโควิด-19

เพื่อให้ห่างไกลจากโควิด-19 ควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์ ได้แก่

  1. ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด หรือล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
  2. สวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องเพื่อควบคุมการแพร่กระจายโรค
  3. หลีกเลี่ยงการเอามือไปสัมผัสบริเวณใบหน้า ไม่ขยี้ตา แคะจมูก และสัมผัสปาก เพื่อลดโอกาสการนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถแพร่กระจายได้ผ่านทางละอองฝอยของผู้ป่วยหรือจากพื้นที่ที่เป็นแหล่งระบาด ทุกคนควรระมัดระวังการติดต่อ การสัมผัส ด้วยการดูแลสุขอนามัยของตนเองอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปและมีโรคประจำตัว
  4. หากมีประวัติสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ต้องสงสัยภายใน 14 วันแล้วมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย ควรพบแพทย์เพื่อคัดกรองและหาสาเหตุแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
  5. หากมีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเดิมหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจตีบ ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง รวมทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ประจำปี และวัคซีนป้องกันปอดบวม Pneumococcal Vaccine หากมีข้อบ่งชี้ในผู้สูงวัยที่มีโรคปอดหรือโรคหัวใจ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ข้อมูลโดย

Doctor Image

พญ. รัตนพรรณ สมิทธารักษ์

อายุรศาสตร์

อายุรศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม

พญ. รัตนพรรณ สมิทธารักษ์

อายุรศาสตร์

อายุรศาสตร์โรคต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม
Doctor profileDoctor profile
Doctor Image

นพ. ชาติทนง ยอดวุฒิ

อายุรศาสตร์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ

นพ. ชาติทนง ยอดวุฒิ

อายุรศาสตร์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ
Doctor profileDoctor profile

สอบถามเพิ่มเติมที่

คลินิกอายุรกรรมโรคหัวใจ

ชั้น 1 โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ

เปิดบริการ
วันจันทร์ - วันเสาร์ 07:00 - 20:00 น.
วันอาทิตย์ 07:00 - 16:00 น.