โนโรไวรัส (Norovirus) ตัวการท้องเสียระบาดในเจ้าตัวเล็ก

2 นาทีในการอ่าน
โนโรไวรัส (Norovirus) ตัวการท้องเสียระบาดในเจ้าตัวเล็ก

แชร์

อาการติดเชื้อท้องเสียที่ระบาดกันมากในเด็กตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนกังวลใจนั้น อาจไม่ได้มาจากเชื้อแบคทีเรีย แต่มีต้นเหตุจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า โนโรไวรัส (Norovirus) ซึ่งส่งผลให้เจ้าตัวเล็กมีอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียนค่อนข้างรุนแรง ยิ่งถ้าภูมิต้านทานต่ำอาการอาจหนักและร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ เพราะฉะนั้นการรู้เท่าทันไวรัสชนิดนี้ย่อมช่วยให้สามารถดูแลป้องกันเจ้าตัวเล็กและทำการรักษาได้ทันท่วงที

 

รู้จักโนโรไวรัส

โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ไวรัสชนิดนี้ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วแม้ร่างกายได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย ที่สำคัญทนต่อความร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้ดี ดังนั้นเมื่อเกิดการปนเปื้อนของโนโรไวรัสในอาหารและน้ำดื่ม จึงทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน และสามารถติดต่อกันได้ง่าย เนื่องจากใช้เวลาเพียงไม่นานในการแพร่กระจายเชื้อ ไวรัสนี้พบระบาดได้มากในฤดูหนาว ติดต่อได้ง่ายในสภาพอากาศเย็น และทำให้เกิดโรคทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

 

อาการที่พบ

อาการที่พบบ่อยหากได้รับเชื้อโนโรไวรัสภายใน 24 – 48 ชั่วโมง ได้แก่
  • ถ่ายเหลวเป็นน้ำ
  • ปวดท้อง
  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ปวดศีรษะ
  • ไข้ต่ำ
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • อ่อนเพลีย

 

การตรวจและรักษา

ตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อโนโรไวรัส ทำได้โดยการเก็บตัวอย่างอุจจาระเพื่อส่งตรวจพิเศษกับห้องปฏิบัติการ หากพบว่าติดเชื้อโนโรไวรัส แพทย์จะทำการดูแลรักษาตามอาการเป็นสำคัญ หากเด็กมีภูมิต้านทานที่ดีอาการจะดีขึ้นและหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน          

แต่หากเด็กเกิดการขาดน้ำอาจทดแทนด้วยการดื่มน้ำเกลือแร่หรือการให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด รับประทานอาหารอ่อน ๆ หรือให้ยาแก้อาเจียนและยาแก้ปวดท้อง แต่ถ้าเด็กภูมิต้านทานต่ำ มีอาการรุนแรงถึงขั้นถ่ายตลอดเวลาต้องนำส่งโรงพยาบาลทันทีและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะอาจเกิดการช็อก ความดันต่ำ และเสียชีวิตได้

 

การติดต่อของโรค

เชื้อโนโรไวรัสสามารถติดต่อได้ง่ายจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง ด้วยพฤติกรรมต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
  • รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อโนโรไวรัส พบบ่อยในน้ำดื่ม น้ำแข็ง ผักผลไม้สด หอยนางรม เป็นต้น
  • เด็กจับหรือสัมผัสกับสิ่งของที่มีเชื้อโนโรไวรัสแล้วเอานิ้วเข้าปาก
  • สัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง

 

ป้องกันระวังติดเชื้อ

การดูแลใส่ใจเรื่องความสะอาดคือหัวใจสำคัญของการป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัส ได้แก่
  • ก่อนทานหรือหยิบจับอาหารและหลังเข้าห้องน้ำต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
  • การล้างมือให้สะอาดต้องล้างด้วยน้ำสบู่ โดยให้น้ำไหลผ่านไม่ต่ำกว่า 15 วินาที
  • ดื่มน้ำที่สะอาด เลือกรับประทานอาหารที่สุก สะอาด สดใหม่
  • เลี่ยงการหยิบจับหรือทำอาหารให้ผู้อื่น
  • ใช้ช้อนกลางหากต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น

 

เพราะเชื้อโนโรไวรัสสามารถติดต่อได้ง่ายและปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน รวมถึงยังไม่มียาที่กำจัดเชื้อไวรัสชนิดนี้โดยเฉพาะ จึงควรดูแลเจ้าตัวเล็กอย่างใกล้ชิดในเรื่องของการรับประทานอาหารและน้ำดื่มที่สะอาด ที่สำคัญล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง คือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ห่างไกลจากเชื้อโนโรไวรัส

           


สอบถามเพิ่มเติมที่
ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลกรุงเทพ
ชั้น 4 อาคาร B โรงพยาบาลกรุงเทพ
เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00 - 20.00 น.

แชร์