ภูมิแพ้ รู้ให้ทันดูแลได้

2 นาทีในการอ่าน
ภูมิแพ้ รู้ให้ทันดูแลได้

แชร์

หนึ่งในโรคยอดนิยมที่เป็นกันมากทั่วโลกคือ โรคภูมิแพ้ เพราะฉะนั้นการรู้เท่าทันเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ ไม่เพียงช่วยให้สังเกตอาการเบื้องต้นได้ ยังหมายถึงการดูแลป้องกันตนเองได้อย่างเหมาะสม

 

โรคยอดฮิตของคนไทย

ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยโรคภูมิแพ้เพิ่มมากขึ้น 3 – 4 เท่า หากเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลสถิติของสมาคมโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทย พบว่า เด็กไทยเป็นโรคภูมิแพ้สูงถึงร้อยละ 38 และผู้ใหญ่เป็นโรคภูมิแพ้ประมาณร้อยละ 20 โดยสาเหตุส่วนใหญ่เนื่องมาจาก

  • กรรมพันธุ์
  • มลภาวะ
  • สูบบุหรี่
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • สภาพแวดล้อมภายในที่พักอาศัย เช่น เลี้ยงสัตว์ ปูพรม เครื่องปรับอากาศ เป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองและไรฝุ่นชั้นดี เป็นต้น

 รู้จักโรคภูมิแพ้

โรคที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายที่ไวต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการผิดปกติกับอวัยวะที่สัมผัสสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้แต่ละคนจะมีอาการแตกต่างกันและความรุนแรงไม่เท่ากัน เพราะชนิดของสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับและการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคลต่างกัน


ประเภทสารก่อภูมิแพ้ 

ประกอบด้วย 2 ประเภทหลัก ได้แก่

          1) สารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อมและอากาศ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสร แมลงสาบ เชื้อรา ฯลฯ

          2) สารก่อภูมิแพ้ประเภทอาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว แป้งสาลี อาหารทะเล ฯลฯ


อาการบ่งบอกภูมิแพ้

อาการของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จะเกิดตามอวัยวะที่มีการอักเสบจากการกระตุ้นของสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่

  • ผื่นคัน
  • ลมพิษ
  • น้ำมูก
  • จาม
  • คันจมูก
  • คัดจมูก
  • คันตา
  • เคืองตา
  • แสบตา
  • น้ำตาไหลบ่อย
  • ไอ
  • หอบ
  • แน่นหน้าอก
  • หายไม่คล่อง
  • หายใจแล้วมีเสียงวี้ด

นอกจากนี้ยังอาจเกิดอาการท้องเสีย อาเจียน น้ำหนักลด รวมทั้งมีภาวะซีดเกิดขึ้นด้วยได้เช่นกัน จึงจำเป็นต้องหมั่นสังเกตตนเองและพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง


ตรวจให้แน่ใจ

การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ย่อมช่วยให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของอาการแพ้ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเริ่มจากแพทย์ตรวจร่างกายและซักประวัติแบบละเอียด จากนั้นจะทำการตรวจเพิ่มเติมตามความเหมาะสม เช่น ทดสอบทางผิวหนัง เจาะเลือดหาสาเหตุ เพื่อให้สามารถยืนยันสาเหตุการแพ้ได้อย่างชัดเจน นำไปสู่การดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม

แม้ภูมิแพ้จะเป็นโรคเรื้อรัง แต่ถ้าหากรู้สาเหตุของการแพ้อย่างชัดเจนและพยายามหลีกเลี่ยง ตลอดจนหมั่นดูแลร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ ย่อมช่วยบรรเทาอาการที่จะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี


สอบถามเพิ่มเติมที่
ศูนย์โรคภูมิแพ้ และหอบหืด
ชั้น 3 อาคาร A โรงพยาบาลกรุงเทพ
วันจันทร์-พฤหัส และอาทิตย์ เวลา 8.00-17.00 น.
วันศุกร์-เสาร์  เวลา 8.00-16.00 น.

แชร์