ไตวายเฉียบพลันสามารถเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดคิด โดยไตจะเสียการทำงานในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ร่างกายเสียสมดุล และกระทบกับเกลือแร่และการขับของเสียต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที โดยเฉพาะในนักกีฬาหรือคนออกกำลังกายที่เสียน้ำมาก หรือภาวะขาดน้ำจากฮีทสโตรก และคนที่ลดน้ำหนักเร็วเกินไป เสี่ยงไตวายเฉียบพลันได้โดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งต้องรีบรักษาก่อนสายเกินไป
ไตวายเฉียบพลันคืออะไร
ไตวายเฉียบพลัน (Acute Kidney Injury) คือ ภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานแบบเฉียบพลัน ทั้งการกรองของเสียในร่างกายและการขับของเสียออกจากร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุลน้ำ เกลือแร่ แร่ธาตุ และเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา ควรต้องรีบรักษาทันทีก่อนร้ายแรงถึงชีวิตได้ ซึ่งระยะเวลาของไตวายเฉียบพลันจะเกิดขึ้นในไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ แต่ต้องรีบฟื้นฟูไตให้กลับมาปกติโดยเร็วที่สุด
ไตวายเฉียบพลันเกิดจากอะไร
ไตวายเฉียบพลันเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ได้แก่
- สารน้ำลดลงจนร่างกายเข้าสู่ภาวะขาดน้ำ เช่น ท้องเสียรุนแรง เสียเหงื่อมาก ฮีทสโตรก อาเจียนเป็นเลือด อุบัติเหตุที่เสียเลือดมาก และปัญหาสุขภาพต่าง ๆ
- การติดเชื้อ ทั้งติดเชื้อในร่างกายและติดเชื้อในกระแสเลือด อาจทำให้เกิดการช็อกได้
- รับประทานยาที่มีผลต่อไต อาจทำให้ไตวายเฉียบพลัน เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาคลายเส้นยาสมุนไพร
- ทางเดินปัสสาวะอุดตัน ทำให้ปัสสาวะไม่ออกและไตวายเฉียบพลันได้ เช่น นิ่ว ต่อมลูกหมากโต มะเร็งบางชนิด
- สาเหตุอื่น ๆ เช่น ความดันโลหิตสูงหรือต่ำเกินไป โรคตับ โรคเกาต์

ทำไมขาดน้ำมากถึงไตวายเฉียบพลัน
เมื่อร่างกายขาดน้ำเป็นเวลานานอาจเข้าสู่ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) ซึ่งภาวะขาดน้ำนี้เองเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่ฮีทสโตรกได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีการสัมผัสกับอากาศร้อนเป็นเวลานาน ๆ นักกีฬาที่ออกกำลังกายโดยใช้กำลังมาก หรือมีประวัติเป็นโรคลมแดดร่วมด้วย มีเสี่ยงไตวายเฉียบพลันเพราะ
- เลือดหนืดส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดและทำให้ไตทำงานหนัก
- ภาวะไม่สมดุลของระดับเกลือแร่ในร่างกาย (Electrolyte Imbalance)
- ภาวะกล้ามเนื้อสลาย (Rhabdomyolysis) จากการที่อยู่กลางแดดแรงและออกแรงมาก ทำให้ของเสียจากกล้ามเนื้อไปอุดตันในท่อไต กระตุ้นให้กล้ามเนื้อสลายและไตวายเฉียบพลันได้
- ภาวะขาดน้ำในผู้สูงอายุ จากการที่ดื่มน้ำน้อยเกินไป ปัสสาวะมากเกินไป สูญเสียน้ำจากโรค เช่น อาหารเป็นพิษจึงอาเจียนและท้องเสีย เสียน้ำผ่านบาดแผลที่ผิวหนัง เช่น แผลไฟไหม้ เหงื่อออกมากเกินไปจากไข้หรือออกกำลังกายนาน
ทำไมลดน้ำหนักไวเกินไป ถึงไตวายเฉียบพลัน
การลดน้ำหนักเร็วเกินไปอาจทำให้ไตวายเฉียบพลันจากการขาดน้ำและเกลือแร่มากจนไตขาดเลือดและไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ เพราะผู้ที่ลดน้ำหนักบางคนมักดื่มน้ำน้อย ไม่ดื่มน้ำ รวมถึงบางคนรับประทานยาขับปัสสาวะเพื่อให้น้ำหนักลดลงเร็วที่สุด ทำให้ปัสสาวะบ่อยส่งผลให้ขาดน้ำ อาจเกิดไตวายเฉียบพลันได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ลดน้ำหนักแบบหักโหม อยากลดน้ำหนักให้เร็วทันใจ ซึ่งการลดน้ำหนักให้ถูกวิธีและค่อยเป็นค่อยไปคือวิธีที่ดีที่สุด เพราะไม่เพียงช่วยให้ร่างกายไม่เสียสมดุล น้ำหนักคงที่ในระยะยาว ยังช่วยให้ไม่เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมา รวมถึงไตวายเฉียบพลันที่ร้ายแรงกว่าที่คาดคิด

ไตวายเฉียบพลันอาการเป็นอย่างไร
อาการไตวายเฉียบพลันมีหลากหลายอาการจึงต้องสังเกตตนเองอยู่เสมอ อาทิ
- บวมน้ำ แขนขาบวม หน้าบวม ตาบวม
- ตะคริวตอนกลางคืนนอนไม่หลับ
- ปัสสาวะออกลดลงหรือไม่มีปัสสาวะเลย
- คลื่นไส้ อาเจียน เบื่อหรือซึมลงจากของเสียที่คั่งในกระแสเลือด
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดเมื่อยตัวรุนแรง
- หากซีด เลือดจางอาจถึงขั้นหมดสติและเสียชีวิตได้
ตรวจวินิจฉัยไตวายเฉียบพลันอย่างไร
การตรวจวินิจฉัยไตวายเฉียบพลันต้องตรวจกับแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญ มีหลายวิธี ได้แก่
- ซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยแพทย์เฉพาะทางโรคไตเพื่อประเมินความเสี่ยงไตวายเฉียบพลัน
- ตรวจเลือดเพื่อประเมินค่าการทำงานของไต ได้แก่
- ตรวจค่าไนโตรเจนจากสารยูเรียในเลือด (Blood urea nitrogen: BUN) เพื่อวัดปริมาณไนโตรเจนจากสารยูเรียในเลือด
- ตรวจค่าครีเอตินิน (Creatinine) เพื่อประเมินของเสียจากการเผาผลาญการใช้งานกล้ามเนื้อจากอวัยวะในร่างกาย
- ตรวจวัดค่าอัตราการกรองของไต (eGFR) เพื่อตรวจเช็กอัตราการคัดกรองของเสียในไตและประเมินประสิทธิภาพการทำงานของไต
- ตรวจวัดเกลือแร่ต่าง ๆในเลือด เพื่อแก้ไขและควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ตรวจปัสสาวะเพื่อประเมินการปนเปื้อนของโปรตีนและเม็ดเลือดแดง บ่งบอกความผิดปกติในไต หากไตมีปัญหาอาจพบโปรตีนและเม็ดเลือดแดงรั่วมากับปัสสาวะ
- ตรวจอัลตราซาวนด์ไต เพื่อค้นหาความผิดปกติต่าง ๆ ผ่านโครงสร้างไต
- ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) เพื่อประเมินลักษณะไตและการอุดกั้นในระบบทางเดินปัสสาวะ

รักษาไตวายเฉียบพลันได้อย่างไร
การรักษาไตวายเฉียบพลันขึ้นอยู่กับสาเหตุเป็นสำคัญ โดยแพทย์จะประเมินการรักษาอย่างเหมาะสม หากรักษาได้ทันเวลา ไตมักกลับมาทำงานได้เป็นปกติ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ถ้ารักษาไม่ทันอาจไตวายเรื้อรังได้ ซึ่งการรักษามีหลายวิธี ได้แก่
- หยุดยาที่มีส่วนทำให้ไตวาย ปรับปริมาณยาให้เหมาะกับการทำงานของไตที่ลดลง
- ให้สารน้ำทดแทนในผู้ป่วยที่มีภาวะขาดน้ำ ดื่มเกลือแร่ที่เหมาะสม เฝ้าระวังอาการช็อก
- ปรับสารอาหาร พลังงาน ปริมาณโปรตีนให้เหมาะกับผู้ป่วยไตวายเฉียบพลัน
- ควบคุมปริมาณน้ำเข้าออกร่างกายให้สมดุลและควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้น
- บำบัดทดแทนไต เมื่อไตทำงานน้อยหรือไม่ทำงาน อาจต้องใช้เครื่องฟอกไตเทียมเพื่อกำจัดของเสียจนกว่าไตจะกลับมาทำงานเป็นปกติ
ไตวายเฉียบพลันกลายเป็น ไตวายเรื้อรังได้ไหม
ไตวายเฉียบพลันและไตวายเรื้อรังเป็นการสูญเสียการทำงานของไต แต่ไตวายเฉียบพลันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อาการมักรุนแรง ถ้ารักษาเร็วมักกลับมาเป็นปกติได้ ส่วนไตวายเรื้อรังจะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นระยะเวลานาน ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงชะลอความเสื่อมและความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น
ป้องกันไตวายเฉียบพลันได้อย่างไร
- หลีกเลี่ยงการซื้อยาแก้ปวดรับประทานเอง หรือการใช้ยาแก้ปวดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ควรมีการปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมหรือสมุนไพรด้วยตนเอง เนื่องจากบางชนิดสามารถทำให้เกิดไตวายฉับพลันได้
- เลี่ยงอาหารเค็มจัด หวานจัด มันจัด
- นอนหลับพักผ่อนให้ได้ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย 8 – 10 แก้วต่อวัน
- ไม่ออกกำลังกายหนัก
- จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- หากผู้ป่วยมีโรคไตเรื้อรังอยู่เดิม ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนทำหัตถการใด ๆ ที่มีการฉีดสารทึบรังสี เนื่องจากมีความเสี่ยงของการเกิดไตวายเฉียบพลันมากกว่าบุคคลทั่วไป
- หากมีอาการผิดปกติหรือมีความเสี่ยงควรตรวจคัดกรองโรคไตกับแพทย์เฉพาะทางทันที
โรงพยาบาลที่พร้อมดูแลรักษาโรคไตแบบครบองค์รวม
ศูนย์โรคไต โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมให้การตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาโรคไตวายเฉียบพลัน โดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญ พยาบาล และทีมสหสาขา พร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ไตกลับมาทำงานเป็นปกติ ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจในทุกวัน
แพทย์ที่ชำนาญการรักษาโรคไต
นพ.มาโนช เตชะโชควิวัฒน์ อายุรแพทย์โรคไต ศูนย์โรคไต โรงพยาบาลกรุงเทพ
สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง








