PFO โรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่ว โรคที่นักดำน้ำต้องระวัง

3 นาทีในการอ่าน
PFO โรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่ว โรคที่นักดำน้ำต้องระวัง
โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ

ในปัจจุบันการดำน้ำเป็นกิจกรรมที่กำลังได้รับความนิยมทั้งแบบสมัครเล่นและอาชีพ สิ่งสำคัญที่ต้องระวังและไม่ควรละเลยคือการตรวจเช็กสุขภาพอย่างละเอียดก่อนดำน้ำ เพราะอาจพบภัยเงียบจากโรคน้ำหนีบ (Decompression Sickness) โดยเฉพาะผู้ที่มีผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วชนิด Patent Foramen Ovale (PFO) จะมีความเสี่ยงสูงและอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้

 

นักดำน้ำที่มีผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่ว (PFO) มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคน้ำหนีบ (DCS) มากกว่านักดำน้ำที่มีสุขภาพปกติถึง 2.5 เท่า และหากรูรั่วมีขนาดใหญ่ มีโอกาสเป็นอัมพาตมากถึง 44% และมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้น 4 เท่า


โรคที่พบบ่อยในนักดำน้ำ

ในนักดำน้ำโรคที่พบได้บ่อยและมีอันตรายมากคือโรคน้ำหนีบ (Decompression Sickness) หรือ เบนด์ (Bend) เกิดขึ้นเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะความกดอากาศในการดำน้ำลึกและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วขณะขึ้นมาบนผิวน้ำ ส่งผลให้แก๊สเฉื่อยหรือไนโตรเจนในร่างกายขยายตัว รวมตัวจนเกิดฟองก๊าซไปอุดตันในกระแสเลือด ทำให้เนื้อเยื่อเกิดการบาดเจ็บและมีอาการผิดปกติของอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะการดำน้ำลึกเกิน 30 ฟุตหรือประมาณ 10 เมตร จะเพิ่มโอกาสโรคน้ำหนีบมากขึ้นจากการที่ก๊าซไนโตรเจนก่อตัวใหญ่ขึ้นขณะขึ้นมาสู่ระดับน้ำตื้นหรือขึ้นสู่ผิวน้ำที่เร็วเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย ความเสี่ยงนั้นเกี่ยวข้องกับเทคนิคการดำน้ำที่ไม่ถูกต้อง ระยะดำน้ำที่ลึกมาก การใช้เวลาดำน้ำที่นาน สภาพแวดล้อมเย็น นอกจากนั้นมีกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ โรคอ้วน มีภาวะขาดน้ำ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วชนิด Patent Foramen Ovale (PFO) อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต 


โรคที่ซ่อนเร้นจากการดำน้ำ 

ผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วชนิด PFO หรือ Patent Foramen Ovale คือรูรั่วขนาดเล็กระหว่างผนังกั้นหัวใจห้องบนขวาและห้องบนซ้าย เป็นความผิดปกติของหัวใจตั้งแต่กำเนิดที่พบได้ในคนส่วนน้อย ประมาณ 75% ของผู้ที่มีรูรั่วจะมีการปิดของรูรั่วภายในอายุ 2 ขวบ แต่ในบางรายรูรั่วจะไม่ปิด ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการผิดปกติใดเกิดขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ บางรายมาพบแพทย์ด้วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ปวดหัวแบบไมเกรน สำหรับการดำน้ำลึกเป็นกิจกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงให้ฟองไนโตรเจนข้ามผนังกั้นหัวใจห้องบนขวาและห้องบนซ้ายหลุดไปอุดตันหลอดเลือดที่สมองหรืออวัยวะอื่น ๆ ทำให้เกิดหลอดเลือดอุดตันเฉียบพลันที่สมอง ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตเฉียบพลัน พิการหรือเสียชีวิตได้ 


นักดำน้ำที่ไม่รู้ตัวว่ามีผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วต้องระวัง

ผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วในนักดำน้ำอันตรายแค่ไหน

หากนักดำน้ำมีผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วแต่กำเนิดโดยไม่รู้ตัวย่อมอันตรายอย่างมาก เพราะเมื่อเกิดการเบ่งหรือมีความดันในน้ำ ทำให้หัวใจห้องบนขวามีแรงดันเพิ่มขึ้นจนรูรั่วบริเวณผนังกั้นหัวใจห้องบนเปิดออกมากขึ้น ทำให้ฟองอากาศไนโตรเจนข้ามผนังกั้นหัวใจห้องบนขวาไปยังหัวใจห้องบนซ้ายและหลุดไปอุดตันหลอดเลือดที่สมอง ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตเฉียบพลันได้


การรักษาผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่ว

การรักษาโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วแต่กำเนิดที่มีขนาดใหญ่ชนิด Atrial Septal Defect ใช้เทคนิคสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัด (Transcatheter ASD Closure) โดยใช้อุปกรณ์เข้าไปปิดรอยรั่วระหว่างผนังกั้นห้องหัวใจ สำหรับการรักษาผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วขนาดเล็กชนิด Patent Foramen Ovale (PFO) การปิดรูรั่วด้วยอุปกรณ์พิเศษผ่านสายสวนเช่นเดียวกับการปิดรูรั่วขนาดใหญ่ โดยอุปกรณ์ที่เลือกใช้จะมีลักษณะที่ต่างกัน หลังจากการปิดรูรั่วด้วยอุปกรณ์ร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อมาปกคลุมรูรั่ว โดยต้องทำการตรวจรักษาและติดตามอาการกับอายุรแพทย์หัวใจอย่างต่อเนื่องจนกว่ารูรั่วจะปิดสนิท หลังจากรักษาจนรูรั่วปิดสนิทโดยทั่วไปแล้วมากกว่าร้อยละ 95 รูรั่วจะปิดสนิทภายใน 3 เดือนหลังใส่อุปกรณ์และสามารถกลับไปดำน้ำได้อีกครั้ง หลังจากได้รับการตรวจและอนุญาตจากแพทย์ที่ทำการรักษา


เตรียมความพร้อมสุขภาพก่อนดำน้ำ 

ในผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำและนักดำน้ำมืออาชีพก่อนดำน้ำแนะนำให้ตรวจเช็กสุขภาพอย่างละเอียดกับแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจหรืออายุรแพทย์โรคหัวใจโดยการตรวจร่างกายและการตรวจหัวใจด้วยเครื่องสะท้อนเสียงความถี่สูง (Echocardiogram) เพื่อตรวจวัดขนาดห้องหัวใจ หลอดเลือดแดงใหญ่ การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ลิ้นหัวใจ วัดความดันในห้องหัวใจ รวมทั้งสามารถตรวจหาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เช่น รูรั่วที่ผนังก้อนหัวใจห้องบน เป็นต้น 


ข้อควรปฏิบัติก่อนดำน้ำ

  • เตรียมร่างกายให้พร้อม ตรวจเช็กสุขภาพ
  • พักผ่อนให้เพียงพอก่อนดำน้ำ 24 – 48 ชั่วโมง
  • ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด 
  • ไม่ควรดำน้ำลึก ดำน้ำนานเกินไป เคลื่อนไหวมากเกินไป และขึ้นจากพื้นน้ำเร็วเกินไป
  • หลังดำน้ำห้ามเดินทางโดยเครื่องบิน 18 – 24 ชั่วโมง
  • ในผู้ที่เป็นโรคอ้วนหรือมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนดำน้ำ
  • ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปไม่ควรดำน้ำ

แพทย์ที่ชำนาญการรักษาโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วชนิด PFO

นพ.เกรียงไกร เฮงรัศมี อายุรแพทย์โรคหัวใจ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ


โรงพยาบาลที่ชำนาญการรักษาโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วชนิด PFO

โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ พร้อมให้การดูแลนักดำน้ำอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ตรวจเช็กสุขภาพไปจนถึงการดูแลรักษาโรคผนังกั้นหัวใจห้องบนรั่วชนิด PFO ด้วยความชำนาญของทีมแพทย์เฉพาะทาง พยาบาล ทีมสหสาขาวิชาชีพ และเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย เพื่อให้กลับมาดำน้ำหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีความสุข


Reference

Denoble PJ, Holm JR, eds. Patent Foramen Ovale and Fitness to Dive Consensus Workshop Proceedings. Durham, NC, Divers Alert Network, 2015, 146 pp.

ข้อมูลโดย

Doctor Image

นพ. เกรียงไกร เฮงรัศมี

อายุรศาสตร์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ

นพ. เกรียงไกร เฮงรัศมี

อายุรศาสตร์

อายุรศาสตร์โรคหัวใจ
Doctor profileDoctor profile