พร้อมให้บริการโดยให้ความสำคัญกับตัวผู้ป่วยและครอบครัวเป็นหลัก เน้นให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการรักษา โดยมุ่งเน้นให้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง เพื่อช่วยให้ผ่านวาระสุดท้ายของชีวิตอย่างสงบ สบาย และมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดยยึดถือตามความเชื่อทางศาสนา วัฒนธรรมของผู้ป่วยและครอบครัว และมุ่งช่วยลดอาการเจ็บป่วยและทุกข์ทรมานจากโรคที่ผู้ป่วยเผชิญอยู่ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความสุขสบายทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ และครอบคลุมถึงการตอบสนองทางด้านจิตวิญญาณ เพื่อทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ส่งเสริมให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอย่างปกติที่สุดระหว่างการรักษา นอกจากนี้ยังให้การดูแลครอบคลุมถึงผู้ใกล้ชิดและครอบครัวผู้ป่วย ทั้งในระยะที่ผู้ป่วยยังมีชีวิตอยู่และหลังจากที่ผู้ป่วยเสียเสียชีวิตไปแล้ว
นอกจากนี้ยังให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการต่าง ๆ ที่ส่งผลให้ผู้ป่วยไม่สุขสบายทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น
- ผู้ป่วยมีความวิตกกังวลหรือซึมเศร้า เรามีทีมในการเข้าไปช่วยเหลือดูแล พูดคุย หรือส่งต่อให้กับจิตแพทย์ และช่วยประคับประคองอาการร่วมกับแพทย์ด้านมะเร็งวิทยา
- ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดแล้วทำให้เกิดสภาวะเยื่อบุอักเสบบริเวณในปากหรือในช่องท้องที่มีอาการเจ็บปากอย่างมากรับประทานยาไม่ได้ ซึ่งโดยปกติอาการปวดเหล่านี้จะเป็น 1 – 2 สัปดาห์จะมีแนวทางสำหรับดูแลผู้ป่วยที่เป็นเยื่อบุช่องปากอักเสบ อาจจำเป็นจะต้องให้ยาเข้าเส้นและใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น Patient Control Analgesia (PCA) เป็นยาที่คนไข้สามารถกดให้เองหรืออาจจะปรับยาให้เข้าเส้นแบบต่อเนื่องตลอดเวลาเป็นต้น
ในกรณีที่มะเร็งกระจายไปแล้ว ผู้ป่วยจะต้องอยู่กับความปวด แพทย์ที่ทำการรักษาจะขอคำปรึกษากับทีม Pain Management เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น เมื่อดูแลผู้ป่วยไปในระยะหนึ่งคุณภาพชีวิตอาจจะไม่ใช่เฉพาะเรื่องทางกาย อาจจะมีความวิตกกังวลต่าง ๆ ทีมพยายามหาต้นเหตุปัจจัยที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือแก้ไขได้ ส่งเสริมการทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อช่วยทำให้คนไข้รู้สึกดีกับชีวิต เช่น
- การฝึกให้ผู้ป่วยดูแลพันผ้าโพกผ้าเพื่อให้ออกไปเข้าสังคมได้ตามปกติ เมื่อผมร่วงหลังการได้รับเคมีบำบัด
- การทำอาหารสุขภาพเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่ดี ทำให้มีแรงที่จะต่อสู้กับมะเร็ง
- การทำ Group Therapy ทำให้ผู้ป่วยมีแรงจูงใจในกลุ่มที่จะดูแลสนับสนุนซึ่งกันและกันในกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยกัน การพูดคุยปรึกษาปัญหาระหว่างกัน ซึ่งบางครั้งอาจจะได้ผลดีกว่าคุยกับแพทย์โดยตรง
- การจัดกิจกรรมโดยใช้เสียงเพลงหรือการใช้การวาดภาพ Music and Art Therapy ซึ่งสามารถดึงให้ผู้ป่วยเข้าใจจิตใจตัวเองและผ่อนคลาย สามารถนำกลับไปทำที่บ้านเอง กิจกรรมเหล่านี้จะเชิญครอบครัวของผู้ป่วย (Care Giver) มาทำกิจกรรมร่วมกัน เราเรียกว่า Think Positive Club โดยสมาชิกประกอบด้วยผู้ป่วยและกลุ่มญาติที่ดูแล
- การติดตามดูแลญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วยหลังจากผู้ป่วยเสียชีวิต (Bereavement Care) ทางโรงพยาบาลจะติดต่อพูดคุยกับญาติ ซึ่งให้การดูแลผู้ป่วย เพราะการสูญเสียสมาชิกในครอบครัว อาจเป็นเหตุให้ญาติของผู้ป่วยกลายเป็นผู้ป่วยไปอีกหนึ่งคนด้วยอาการของโรคซึมเศร้า การดูแลแบบ Bereavement Care ให้กับญาติผู้ป่วย เป็นหนึ่งในการดูแลที่ครอบคลุมของ Palliative Care ทั้งทางกายและใจ ครอบครัว สังคม
- การเตรียมพร้อมสำหรับการเสียชีวิตแบบสงบ (Good Dead) ผู้ป่วยสามารถรับคำปรึกษาจากทีมแพทย์ Palliative Care ได้ตลอดเวลาในช่วงเวลาที่เข้ารับการรักษา