ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาการปวดสะโพก

5 นาทีในการอ่าน
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาการปวดสะโพก
โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์ฯ เพื่อสมองและกระดูก

อาการปวดสะโพกสามารถพบได้ในทุกช่วงอายุและทุกระดับกิจกรรม มีความเชื่อผิด ๆ มากมายเกี่ยวกับสาเหตุและการวินิจฉัย ซึ่งอาจนำไปสู่การรักษาระยะยาวที่ไม่เหมาะสม จึงควรมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง

 

1) ความเชื่อ: ถ้ามีอาการปวดสะโพกด้านในลึก เวลาขยับหรือออกกำลังกายมักมีปัญหาเกี่ยวกับข้อสะโพก

ความจริง: โครงสร้างของสะโพกนั้นซับซ้อนและมีสาเหตุของอาการปวดมากมาย ตำแหน่งที่ปวดบริเวณสะโพกมีความสำคัญอย่างยิ่งในการระบุสาเหตุ เพระอาการปวดอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่บริเวณก้นด้านหลัง ด้านข้าง ปุ่มกระดูก หรือด้านหน้าบริเวณขาหนีบ ซึ่งบ่งบอกถึงปัญหาต่าง ๆ ของสะโพก อาการปวดหรือการอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้ที่กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ถุงน้ำ (Bursa) หรือในตัวข้อสะโพกเอง บางครั้งการอักเสบที่เกิดขึ้นในข้ออาจส่งผลถึงโครงสร้างข้างเคียง ดังนั้นการตรวจร่างกายที่ถูกต้องและชัดเจนเพื่อหาสาเหตุจึงมีผลอย่างมากต่อการรักษา


2) ความเชื่อ: หากได้ยินเสียงในสะโพกเวลาเปลี่ยนท่าทางหรือขยับ แสดงว่ากระดูกอ่อนที่อยู่ในข้อสะโพกเสียหาย

ความจริง: การได้ยินเสียงคลิกหรือเสียงคล้ายดีดนิ้วจากข้อสะโพกไม่ได้หมายความว่าเกิดความเสียหายในข้อเสมอไป โดยส่วนใหญ่เสียงที่ได้ยินมักเกิดจากภาวะที่เรียกว่า “Snapping Hip Syndrome” ซึ่งแบ่งเป็นแบบภายใน (Internal Snapping Hip) และภายนอก (External Snapping Hip):

  • Internal Snapping Hip: เกิดจากกล้ามเนื้อ Iliopsoas เคลื่อนตัวและเสียดสีกับหัวกระดูกสะโพกหรือปุ่มกระดูกของกระดูกเชิงกรานในขณะเคลื่อนไหว ทำให้เกิดเสียงและอาจมีปวดบางจังหวะการเดินได้
  • External Snapping Hip: เกิดจากกล้ามเนื้อด้านข้างของสะโพก เช่น กล้ามเนื้อ Iliotibial Band หรือ Gluteus Maximus เคลื่อนตัวเสียดสีกับปุ่มกระดูกคอสะโพก (Greater Trochanter) ทำให้เกิดเสียงและอาการอักเสบได้

ส่วนใหญ่สามารถป้องกันและรักษาได้ด้วยการกายภาพบำบัดที่เน้นกล้ามเนื้อที่ต้องการให้แข็งแรงขึ้นเพื่อให้ตำแหน่งของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นอยู่ในบริเวณที่เหมาะสมลดความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อและลดการอักเสบ

อย่างไรก็ตามสาเหตุของเสียงในสะโพกอาจเกิดจากพยาธิสภาพภายในข้อสะโพกเช่นการฉีกขาดของวงแหวนรองข้อสะโพก (Labrum Tear) หรือการเสียดสีของกระดูกอ่อนที่เสื่อมสภาพ ซึ่งเป็นไปได้เช่นกัน ดังนั้นการวินิจฉัยที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญในการกำหนดแนวทางการรักษา


3) ความเชื่อ: ในกรณีที่อายุยังไม่มากและเล่นกีฬาเป็นประจำแต่มีอาการปวดสะโพก ควรฝึกซ้อมมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มการทำงานของข้อสะโพก

ความจริง: แม้ว่าการเล่นกีฬาและกิจกรรมต่าง ๆ จะมีประโยชน์ แต่การเพิ่มระดับการฝึกซ้อมโดยไม่เข้าใจสาเหตุของอาการปวดสะโพกที่แท้จริงอาจไม่ส่งผลดี ควรตรวจสอบว่าอาการปวดเกิดจากพยาธิสภาพบริเวณใด กระดูกอ่อนในข้อมีปัญหาหรือไม่ และมีการอักเสบของเนื้อเยื่อรอบ ๆ ข้อมากน้อยเพียงใด การเพิ่มระดับกิจกรรมหรือการฝึกซ้อมอาจทำให้การอักเสบแย่ลงและเกิดวงจรการอักเสบต่อเนื่อง จึงควรลดระดับการออกกำลังกาย แต่ยังรักษาความเคลื่อนไหวของข้อ มวลกล้ามเนื้อ และการทำงานของกล้ามเนื้อรอบ ๆ เพื่อให้การอักเสบลดลงก่อน และได้รับการตรวจวินิจฉัยเพื่อปรับการรักษาให้เหมาะสม การทำเช่นนี้จะเป็นหลักสำคัญที่ทำให้การรักษาประสบความสำเร็จ


ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาการปวดสะโพก

4) ความเชื่อ: การเสื่อมสภาพของข้อสะโพกเกิดเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น

ความจริง: จริง แล้ว โรคข้อสะโพกเสื่อมส่วนใหญ่มักเกิดจากสาเหตุทุติยภูมิ เป็นผลมาจากปัจจัยหรือโรคอื่นที่มีอยู่ก่อนหน้า (ต่างจากโรคข้อเข่าเสื่อมที่มักเกิดจากสาเหตุปฐมภูมิ คือจากความเสื่อมสภาพตามธรรมชาติของร่างกาย) สาเหตุของการเกิดข้อสะโพกเสื่อมที่พบได้แม้อายุยังไม่มาก ได้แก่

  • Hip Dysplasia ความผิดปกติของสะโพกทางกายวิภาคที่มีลักษณะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ลักษณะคือหัวกระดูกต้นขา (Femoral Head) มีเบ้าสะโพก (Acetabulum) มาครอบคลุมไม่เพียงพอ ทำให้แรงกระทำผ่านข้อสะโพกผิดปกติที่ขอบเบ้าสะโพก ส่งผลให้อาจเกิดการฉีกขาดของวงแหวนรองข้อสะโพก (Labrum) และอาจทำให้เกิดความเสื่อมสภาพของข้อสะโพกเร็วกว่าปกติ
  • Osteonecrosis of the Hip ภาวะหัวสะโพกตายจากการขาดเลือด ทำให้กระดูกบริเวณหัวสะโพกไม่เรียบกลม ส่งผลให้กระดูกอ่อนบริเวณข้อสะโพกสึกหรอ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการใช้สเตียรอยด์เป็นระยะเวลานาน การดื่มแอลกอฮอล์ โรคเลือดบางชนิด อุบัติเหตุบริเวณสะโพก และอื่น ๆ
  • Femoroacetabular Impingement (FAI) ภาวะที่ข้อสะโพกเกิดการขัดและเสียดสี เนื่องจากมีปุ่มกระดูกเกินบริเวณหัวกระดูกต้นขา (Cam Type) หรือเบ้าสะโพกที่คลุมมากเกินไป (Pincer Type) การชนหรือเสียดสีซ้ำ ๆ ระหว่างการเคลื่อนไหวสะโพกมีโอกาสทำลายกระดูกอ่อนและวงแหวนรองข้อสะโพก (Labrum)
  • สาเหตุอื่น เช่น Slipped Capital Femoral Epiphysis, Perthes Disease, Inflammatory Diseases หรือ Proximal Femoral Deficiencies ซึ่งเป็นภาวะที่ส่งผลต่อการพัฒนาโครงสร้างของสะโพก ทำให้มีโอกาสเกิดข้อสะโพกเสื่อม การตรวจและรักษาแต่เนิ่น ๆ มีความสำคัญในการป้องกันการเสื่อมสภาพที่มากขึ้น

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาการปวดสะโพก

5) ความเชื่อ: เมื่อมีปัญหาในข้อสะโพก หากรักษาด้วยยาและกายภาพไม่ดีขึ้นต้องเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมเสมอ

ความจริง: ความจำเป็นในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ ระดับกิจกรรม ความรุนแรงของอาการ และพยาธิสภาพเฉพาะ ถึงแม้มีการสูญเสียกระดูกอ่อนอย่างรุนแรงหรือมีระดับความเสื่อมที่รุนแรงอาจมีทางเลือกการรักษาไม่มากนัก การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม (Total Hip Arthroplasty) ยังเป็นวิธีมาตรฐานที่ให้ผลการรักษาที่ดีมากและมีอายุการใช้งานของข้อเทียมที่ยาวนานมากขึ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามในกรณีที่กระดูกอ่อนในข้อสะโพกยังอยู่ในสภาพดี หากผู้ป่วยรับประทานยาและทำกายภาพแล้วยังไม่ดีขึ้น มีการผ่าตัดแบบอื่นที่เป็นทางเลือกการรักษา ได้แก่

  • การส่องกล้องผ่าตัดข้อสะโพก (Hip Arthroscopy) มีขนาดแผลเล็ก ใช้เพื่อซ่อมวงแหวนรองข้อสะโพกที่ฉีกขาด หรือเอาปุ่มกระดูกหรือส่วนกระดูกที่เกินออกตามพยาธิสภาพ
  • การผ่าตัดเปลี่ยนแนวข้อสะโพก (Osteotomy Procedure) เป็นการผ่าตัดที่ตัดกระดูกเพื่อปรับปรุงชีวกลศาสตร์ของข้อสะโพกให้ดีขึ้น ลดโอกาสเกิดภาวะสะโพกเสื่อม
  • การผ่าตัดยืดเส้นเอ็นที่ตึง (Surgical Release of Tight Structures) ในกรณีที่เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดอาการปวดสะโพก

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาการปวดสะโพก

การทราบสาเหตุของอาการปวดข้อสะโพกที่ถูกต้องย่อมนำไปสู่การรักษาที่ถูกต้องเพื่อผลการรักษาที่ยั่งยืน หากมีอาการปวดสะโพกขณะเคลื่อนไหว ปวดตอนกลางคืน การเคลื่อนไหวของข้อสะโพกจำกัดลง หรือมีสัญญาณการอักเสบ เช่น บวม แดง ร้อน หรือลามไปบริเวณอื่น ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาโดยเร็ว


โรงพยาบาลที่ชำนาญด้านการรักษาอาการปวดสะโพก

ศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่า โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลเพื่อกระดูกและสมอง พร้อมให้การตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาอาการปวดสะโพกแบบครบทุกมิติ โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการที่พร้อมให้คำปรึกษาและการรักษาอย่างเหมาะสม พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อฟื้นฟูสะโพกให้แข็งแรง กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ


แพทย์ผู้ชำนาญด้านการรักษาอาการปวดสะโพก

นพ.ภานุวัฒน์ ศิลาวัชนาไนย ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ เฉพาะทางด้านการเปลี่ยนข้อเข่าเทียม และเปลี่ยนสะโพกเทียมแบบไม่ตัดกล้ามเนื้อ โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล  โรงพยาบาลเพื่อกระดูกและสมอง

สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง


แพ็กเกจผ่าตัดสะโพกและข้อเข่า

แพ็กเกจผ่าตัดสะโพกและข้อเข่า ราคาเริ่มต้น 299,000 บาท

คลิกที่นี่

ข้อมูลโดย

Doctor Image

นพ. ภานุวัฒน์ ศิลาวัชนาไนย

ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์

นพ. ภานุวัฒน์ ศิลาวัชนาไนย

ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์

Doctor profileDoctor profile

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์ข้อสะโพกและข้อเข่า

ชั้น 2 ฝั่งทิศใต้ (S2) อาคารโรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น.