โรคไข้หวัดใหญ่มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายได้รับเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ มีไข้สูง ปวดศีรษะ อ่อนเพลียและปวดเมื่อยตามตัวร่วมด้วย ในบางรายจะมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาลหลังจากหายป่วยแล้วร่างกายอาจมีอาการอ่อนเพลียติดต่อกันไปอีกหลายสัปดาห์ ดังนั้นการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนจึงมีความสำคัญ
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อันตรายหรือไม่?
วัคซีนไข้หวัดใหญ่ทำมาจากเชื้อที่ตายแล้วทำให้หมดความสามารถในการก่อโรคจึงมีความปลอดภัยสูง นอกจากนั้นยังมีประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อีกด้วย แต่ผู้ฉีดวัคซีนแล้วยังอาจเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ซึ่งอาการจะไม่รุนแรง
อาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่?
ผู้รับวัคซีนอาจมีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีด มีไข้หรือปวดเมื่อยตัว ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถหายเองได้ภายใน 2-3 วัน
ใครที่สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้และฉีดได้เวลาใดบ้าง?
- สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยฉีดปีละ 1 ครั้ง ซึ่งสามารถฉีดได้ตลอดปี แต่แนะนำในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน (มีนาคม-พฤษภาคม) หรือเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว (ตุลาคม-พฤศจิกายน)
- ส่วนเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 9 ปี ซึ่งได้รับวัคซีนเป็นครั้งแรกให้ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยห่างกัน 1 เดือน หลังจากนั้นให้ฉีดซ้ำทุกปี ปีละ 1 เข็ม
ข้อห้ามในการฉีดวัคซีน
- เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน
- มีประวัติแพ้ไข่ไก่ เนื่องจากวัคซีนถูกผลิตขึ้นในไข่ไก่
- ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วพบว่ามีอาการแพ้อย่างรุนแรง
- ผู้ที่มีไข้หรือเจ็บป่วย รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวอาการกำเริบไม่สามารถควบคุมได้ควรเลื่อนการรับวัคซีนไปก่อน
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
- ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ หากไม่มีให้ใช้แอลกอฮอล์เจลสำหรับล้างมือแทน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา จมูก หรือปาก เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อได้ตามช่องทางเหล่านี้
- ควรใส่หน้ากากอนามัย










