การตรวจวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย (Body Composition Analysis : BCA)
การวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายมีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางแผนดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมน้ำหนัก เพิ่มกล้ามเนื้อ หรือลดไขมัน เพราะช่วยให้เราเข้าใจว่าในน้ำหนักตัวของเรานั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง เช่น มวลไขมัน, มวลกล้ามเนื้อ, มวลกระดูก และปริมาณน้ำในร่างกาย
เทคนิคที่นิยมใช้ – BIA (Bioelectrical Impedance Analysis)
หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากทำได้ง่ายและให้ผลค่อนข้างแม่นยำ คือ การตรวจแบบ BIA
วิธีนี้ใช้หลักการวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกาย ขั้นตอนการตรวจไม่ซับซ้อน ไม่เจ็บตัว ใช้เวลาเพียง 2–3 นาที และทราบผลได้ทันทีหลังตรวจ
ข้อมูลที่ได้จากการตรวจ BIA
เพียงการตรวจครั้งเดียว สามารถให้ข้อมูลสุขภาพได้อย่างครอบคลุม เช่น
- มวลกล้ามเนื้อ (Muscle Mass)
- มวลไขมันใต้ผิวหนัง (Body Fat Mass)
- มวลไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat Mass)
- ปริมาณน้ำในร่างกาย (Body Water)
- ปริมาณเกลือแร่ในร่างกาย (Minerals)
- อายุทางชีวภาพ (Biological Age)
- การประเมินสมดุลซ้าย–ขวา (Balance Assessment)
- อัตราการเผาผลาญพลังงาน (BMR & TDEE)
ใครเหมาะกับการตรวจ BIA
- ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
ไม่แนะนำสำหรับ:
• หญิงตั้งครรภ์
• ผู้ที่มีวัสดุโลหะฝังในร่างกาย
• ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker)
• หญิงตั้งครรภ์
• ผู้ที่มีวัสดุโลหะฝังในร่างกาย
• ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker)
ข้อดีและประโยชน์ของการตรวจ BIA
- ติดตามผลลัพธ์ได้แม่นยำ – เห็นการเปลี่ยนแปลงของมวลกล้ามเนื้อและไขมันได้ชัดเจน
- วางแผนการดูแลสุขภาพได้ตรงจุด – ช่วยปรับโปรแกรมการออกกำลังกายและโภชนาการให้เหมาะสม
- เหมาะสำหรับนักกีฬาและคนออกกำลังกาย – ประเมินสมรรถภาพและติดตามพัฒนาการได้ดี
- ตรวจสอบสมดุลของร่างกาย – ช่วยดูความเสี่ยง เช่น ไขมันในช่องท้องหรือน้ำในร่างกายผิดปกติ
- รวดเร็วและไม่เจ็บตัว – ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ทราบผลได้ทันที
ดาวน์โหลดผลวิเคราะห์










