การตรวจไฟฟ้าวินิจฉัย (Electrodiagnosis)
ประกอบด้วยการตรวจโดยใช้ไฟฟ้ากระตุ้นเส้นประสาทเพื่อประเมินการทำงานของเส้นประสาทนั้น ๆ (Nerve Conduction Study (NCS)) และการตรวจด้วยเข็มเพื่อตรวจคลื่นไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อ (Electromyography (EMG)) ชื่อที่ใช้เรียกโดยรวมสำหรับการตรวจชนิดนี้ คือ EMG และการตรวจนี้สามารถทำได้ทั้งในผู้ใหญ่และเด็ก
ข้อบ่งชี้ในการตรวจ
EMG ใช้สำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคของระบบประสาทส่วนปลาย ซึ่งประกอบด้วย
- โรคของกล้ามเนี้อ
- โรคของรอยต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนี้อ
- โรคของเส้นประสาท
- โรคของรากประสาท
- โรคของเซลล์ประสาทระดับไขสันหลัง และบางส่วนของฐานสมอง
ตัวอย่างของโรคที่วินิจฉัยได้ด้วยการทำ EMG
- เส้นประสาทถูกกดทับ เช่น พังผืดกดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ (Carpal tunnel syndrome) เส้นประสาทอัลน่าร์ถูกกดทับบริเวณข้อศอก หรือการเกิดการทำลายของเส้นประสาทจากอุบัติเหตุ
- โรคกระดูกทับเส้น หรือหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทบริเวณคอหรือหลัง
- โรคปลายประสาทเสื่อม โดยจะมีอาการชาปลายมือปลายเท้า เกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ขาดวิตามิน กินเหล้า
- โรคเส้นประสาทอักเสบ จากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อ หรือโรคทางภูมิคุ้มกัน
- โรคกล้ามเนื้ออักเสบ
- โรคของรอยต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดเอ็มจี (Myasthenia Gravis)
โดยโรคเหล่านี้ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ด้วยอาการต่าง ๆ เช่น ชาปลายมือปลายเท้า หรือชาบางส่วนของร่างกาย กล้ามเนื้อแขนขา บริเวณใบหน้าหรือคออ่อนแรง
อาจจะมีอาการปวดร่วมด้วยโดยเฉพาะปวดแสบร้อน ปวดเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่าน กล้ามเนื้อลีบ หรือในกลุ่มโรคที่พบไม่บ่อยซึ่งทำให้มีอาการอ่อนแรงเป็น ๆ หาย ๆ ของกล้ามเนื้อโดยที่ให้มีอาการต่าง ๆ เช่น หนังตาตก มองเห็นภาพซ้อนเป็น ๆ หาย ๆ เป็นต้น
แพทย์ผู้ตรวจรักษาจะเป็นผู้ประเมินว่าอาการของผู้ป่วย อาจจะเข้าได้กับกลุ่มโรคของระบบประสาทส่วนปลายหรือไม่ โดยการซักประวัติและตรวจร่างกายเป็นหลัก และหากสงสัยโรคในกลุ่มนี้ การส่งตรวจ EMG ก็จะช่วยในการยืนยันการวินิจฉัย, ประเมินระดับความรุนแรง, ช่วยในการพยากรณ์โรค วางแผนการรักษา และในบางกรณีสามารถใช้ตรวจเพื่อติดตามอาการได้
การเตรียมตัวก่อนการตรวจ
- ใส่เสื้อผ้าที่สามารถเปิดบริเวณแขนและขาได้ง่าย เพื่อให้สะดวกในการตรวจ
- รักษาปลายมือปลายเท้าให้อุ่นโดยเฉพาะ หากต้องอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานานก่อนเริ่มการตรวจ เพื่อให้การตรวจแม่นยำมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการทาครีม โลชั่น หรือออยล์ในวันที่มาตรวจ หากมีโรคที่มีอาการที่ใบหน้า งดแต่งหน้า หรือล้างออกก่อนตรวจ เพื่อลดการรบกวนของคลื่นไฟฟ้าที่บันทึกได้จากเส้นประสาท
ระหว่างการตรวจ
ผู้ป่วยสามารถผ่อนคลายและไม่เกร็งกล้ามเนื้อจะช่วยให้การตรวจง่ายขึ้นมาก
ผลข้างเคียง
การตรวจไฟฟ้าวินิจฉัย ในขณะที่ทำการตรวจอาจจะรู้สึกไม่สุขสบายอยู่บ้าง แต่ไม่มีผลข้างเคียงระยะยาว ผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจจะมีโอกาสเกิดเลือดออกได้มากกว่าคนทั่วไป
กรุณาบอกแพทย์ผู้ตรวจ หากท่านรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
หลังการตรวจ
โดยทั่วไปแพทย์ผู้ตรวจจะสามารถบอกผลเบื้องต้นหรือสามารถออกผลการตรวจให้ได้หลังตรวจเสร็จ แต่ในกรณีที่เป็นโรคมีความซับซ้อน อาจจะต้องใช้เวลาในการแปลผล ซึ่งแพทย์จะส่งผลการตรวจไปให้แก่แพทย์ที่ส่งผู้ป่วยมาตรวจในภายหลัง











