
หากป่วยเป็นโรคระบบทางเดินปัสสาวะอย่างมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งไต จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาโดยเร็ว ซึ่งหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด da Vinci Xi เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยศัลยแพทย์ให้ผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าถึงทุกตำแหน่งยาก แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว เพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด

เทคโนโลยีตัดชิ้นเนื้อจากต่อมลูกหมากด้วยภาพเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็ก 3 มิติ ช่วยให้วินิจฉัยถูกต้องรวดเร็ว

โรคต่อมลูกหมากโตส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวัน ปัจจุบันสามารถรักษาโรคต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ (Water Vapor Therapy) โดยไม่ต้องผ่าตัด

โรคนิ่วในไตสามารถพบได้ในคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้ชายมีโอกาสพบได้มากกว่าผู้หญิง และช่วงวัยที่พบส่วนใหญ่คืออายุ 30 - 40 ปี

อาการปวดปัสสาวะบ่อย ๆ และเข้าห้องน้ำหลายครั้ง อาจทำให้หลายคนชะล่าใจคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ความจริงแล้วอาจกำลังเผชิญอยู่กับภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive Bladder - OAB) ที่ส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตได้ในระยะยาว ถ้าไม่รีบรักษาอย่างทันท่วงที

การผ่าตัดผ่านกล้องศัลยศาสตร์ทางเดินปัสสาวะเจริญก้าวหน้าอย่างมาก สามารถมาปรับใช้ในการผ่าตัดรักษาโรคที่เกิดในระบบทางเดินปัสสาวะเกือบทุกอวัยวะ ประกอบกับกำลังขยาย ความคมชัดของกล้องที่ดี ทำให้มองเห็นอวัยวะที่จะผ่าตัดได้ดีขึ้น ทำให้การผ่าตัดได้ผลดี แผลเล็ก เสียเลือดน้อยกว่า เจ็บปวดหลังผ่าตัดน้อยกว่า

การรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยวิธีการใช้แสงเลเซอร์ PVP เป็นการผ่าตัดโดยใช้แสงเลเซอร์ที่มีพลังงานสูงยิงไปยังตำแหน่งในต่อมลูกหมากที่มีภาวะอุดกั้น โดยที่แสงเลเซอร์จะไปทำให้เนื้อเยื่อที่กีดขวางทางเดินปัสสาวะนั้นค่อย ๆ ระเหิดหายไป

เมื่ออายุเพิ่มขึ้นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนค่อย ๆ ลดลงไป เพศชายเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ต่างจากผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน โดยเฉพาะความผิดปกติของต่อมลูกหมาก ผู้ชายไทยเป็นกันมาก อันดับ 1 ที่พบคือโรคต่อมลูกหมากมากถึง 80% การสังเกตความผิดปกติและรีบเข้ารับการรักษาโดยเร็วจะช่วยให้อาการไม่รุนแรงเพิ่มขึ้น

โรคต่อมลูกหมากโต (BPH) พบได้ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งพบได้มากขึ้น สิ่งผิดปกติที่เกี่ยวเนื่องและเกิดขึ้นกับระบบทางเดินปัสสาวะเป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หย่อนสมรรถภาพทางเพศ ไปจนถึงโรคที่ส่งผลกระทบต่อต่อมลูกหมากสามารถรักษาโดยการผ่าตัดต่อมลูกหมากด้วยการส่องกล้อง

โรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่และกลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่ ปัสสาวะบ่อยมาก ทั้งกลางวัน กลางคืน ปวดกลั้นมากขณะที่จะไปห้องน้ำจนบ่อยครั้ง หรือบางครั้งกลั้นไม่อยู่ราดออกไปก่อน

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศคนที่เป็นย่อมรู้อยู่แก่ใจ แพทย์จะช่วยหาสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยการซักถามจากประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฎิบัติการ ดังนั้นหน้าที่ของคนไข้คือ บอกความจริงแก่แพทย์ให้มากที่สุดเพื่อประโยชน์ของตัวเอง

ปัญหาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ปัจจุบันสามารถรักษาหลายวิธีตามความเหมาะสมและความต้องการของคนไข้แต่ละคน