Refractive Lens Exchange (RLE) ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้สายตาให้มองชัดทุกระยะ

7 นาทีในการอ่าน
Refractive Lens Exchange (RLE) ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้สายตาให้มองชัดทุกระยะ
โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมหรือ Refractive Lens Exchange (RLE) เป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาสายตาที่เหมาะกับกลุ่มคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของเลนส์ตา เลนส์เริ่มเสื่อม เลนส์เปลี่ยนสีไม่ใสเหมือนตอนอายุน้อย เลนส์เริ่มขุ่น เลนส์เริ่มมีต้อกระจกให้กลับมามองเห็นชัดทุกระยะ ลดการใช้แว่นสายตาลง

Refractive Lens Exchange (RLE) คืออะไร

Refractive Lens Exchange (RLE) หรือการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมเป็นวิธีการรักษาสายตาโดยสลายเลนส์ตาธรรมชาติออกคล้ายกับการสลายต้อกระจกแล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียม (Intraocular Lens – IOL) ที่ผ่านการคํานวณค่าสายตาของผู้ป่วยเข้าไปแทนที่ เพื่อปรับค่าสายตา ลดการใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ แก้ปัญหาสายตา อย่างการรักษาผู้ที่ยังไม่มีภาวะต้อกระจกมากนักสามารถผ่าตัดใช้เครื่องสลายต้อกระจกแบบแผลเล็กช่วยให้กลับมามองเห็นได้ชัด

Refractive Lens Exchange (RLE) ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้สายตาให้มองชัดทุกระยะ

Refractive Lens Exchange (RLE) เหมาะกับใคร

การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) เหมาะกับการรักษาความผิดปกติของสายตาในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 – 55 ปีขึ้นไปที่อยากแก้ปัญหาสายตา ลดการใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ จุดประสงค์ของการผ่าตัดวิธีนี้คล้ายกับผู้ป่วยกลุ่มอายุน้อยวัย 20 – 50 ปีที่อยากแก้ไขสายตา ลดการใช้แว่นหรือคอนแทคเลนส์ด้วยเลสิกหรือเลนส์เสริม แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น การรักษาด้วยเลเซอร์หรือเลนส์เสริมจะมีข้อจำกัดและอาจไม่เหมาะสม

โดยปกติกลุ่มอายุ 20 – 50 ปีจะแก้ไขสายตาสั้น ยาว เอียง ยาวตามวัยด้วยเลเซอร์รักษาสายตา เช่น Femtolasik, Femtolasik presbyond, PRK, ReLEx SMILE ตามแต่ความเหมาะสมของค่าสายตา โดยอายุ 20 – 45 ปีที่มีค่าสายตาสั้นหรือเอียงมาก กระจกตาบาง ไม่เหมาะกับเลเซอร์รักษาสายตาข้างต้น และเลนส์ตายังใสสามารถแก้โดยเลนส์เสริม ICL

ส่วนในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 – 55 ปีขึ้นไปที่มีภาวะสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตายาว ทั้งสายตายาวแต่กำเนิดและสายตายาวตามอายุ และสายตาเอียง แต่ไม่ชอบใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ การทํา Femtolasik, ReLEx SMILE หรือเลนส์เสริม ICL อาจมีข้อจำกัด เพราะอายุที่มากขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงของเลนส์ตามวัยที่มากขึ้น การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) จึงตอบโจทย์การแก้ปัญหาสายตาผิดปกติได้อย่างเหมาะสมในวัยนี้

Refractive Lens Exchange (RLE) ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้สายตาให้มองชัดทุกระยะ

ชนิดเลนส์ที่ใช้ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) เป็นอย่างไร

Refractive Lens Exchange (RLE) ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้สายตาให้มองชัดทุกระยะ

1) Monofocal IOL เลนส์ชัดระยะเดียว (โฟกัส 1 ระยะ)

เลนส์ชนิดนี้จะมองเห็นชัดได้ที่ระยะเดียว โดยส่วนใหญ่จะคำนวณเพื่อให้โฟกัสระยะไกลชัด

1.1 ใส่เลนส์ชัดระยะเดียว โดยให้โฟกัสระยะไกลชัดทั้งสองตา (Full Correction)

ผลการรักษา หลังผ่าตัดสามารถแก้ค่าสายตาได้

  • มองไกลได้โดยไม่ต้องสวมใส่แว่นตา
  • มองใกล้ต้องใส่แว่นสายตายาวจึงจะมองได้ชัด โอกาสเกิดแสงรบกวนในที่มืดแสงฟุ้งหรือแสงกระจายน้อยกว่าเลนส์ประเภทอื่นๆ

1.2 ใส่เลนส์โฟกัสระยะเดียวแบบ 2 ตา เลือกระยะโฟกัสคนละที่ (Monovision)

  • ตาเด่น ใส่เลนส์ที่โฟกัสชัดระยะไกล
  • ตาด้อย ใส่เลนส์โดยเลือกให้โฟกัสระยะใกล้

ผลการรักษา หลังผ่าตัดจะลดการพึ่งพาแว่นตาลง

  • เมื่อมอง 2 ตาพร้อมกันสามารถมองเห็นได้ทั้งไกลและใกล้ในคนที่สามารถปรับตัวได้ (คล้ายการทำแบบ Monovision Lasik)
  • แพทย์จะต้องทดสอบก่อนเลือกทําว่าผู้ป่วยสามารถปรับและมองเห็นได้ดีหรือไม่เมื่อมอง 2 ตาทั้งในระยะไกลและระยะใกล้และสามารถประเมินความเหมาะสม โดยดูจากลักษณะแว่นหรือคอนแทคเลนส์ที่ใส่ก่อนทำการผ่าตัด

Refractive Lens Exchange (RLE) ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้สายตาให้มองชัดทุกระยะ

2) Multifocal IOL / Trifocal IOL เลนส์โฟกัสหลายระยะ / 3 ระยะ

เลนส์ออกแบบมาให้มองเห็นได้หลายระยะ มีลักษณะเป็นวงหลาย ๆ วงในเนื้อเลนส์ ลดการสวมใส่แว่นตา โดยเลนส์มีจุดโฟกัสหลายจุด ทั้งไกล กลาง และใกล้ ทำให้แต่ละตามองเห็นได้หลายระยะ โดย 80 – 90% ของผู้ที่ใส่เลนส์นี้สามารถใช้ชีวิตประจำวันทำงานอ่านหนังสือใช้คอมพิวเตอร์ขับรถได้เป็นปกติโดยไม่ต้องใส่แว่นตาแต่ถ้าต้องอ่านหนังสือตัวเล็กมากๆหรือทำงานในระยะใกล้มากแสงน้อยหรือถ้าต้องมองนานๆมองตัวอักษรหรือภาพที่มีรายละเอียดเล็กๆก็ยังสามารถใส่แว่นตาเสริมได้

เลนส์ Trifocal IOL สามารถมองเห็นระยะใกล้ได้คมชัดกว่าเลนส์ชัดระยะเดียว หรือ EDoF แต่มีโอกาสเกิดแสงรบกวนในที่มืด แสงฟุ้งหรือแสงกระจายมากกว่าเลนส์ประเภทอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักสามารถปรับตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป เร็วช้าขึ้นกับแต่ละคน

Refractive Lens Exchange (RLE) ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้สายตาให้มองชัดทุกระยะ

3) Extended Depth of Focus IOL (EDoF IOL) เลนส์เพิ่มระยะหรือยืดระยะโฟกัส

ออกแบบให้มองเห็นหลายระยะ โดยระยะชัดตั้งแต่ระยะไกลถึงระยะกลาง และใกล้พอได้บ้าง มีโอกาสเกิดแสงรบกวนในที่มืดน้อยกว่าเลนส์หลายระยะ ซึ่ง EDoF IOL มีการออกแบบที่หลากหลาย เลนส์รุ่นใหม่ ๆ มักไม่ได้มีลักษณะเป็นวงหลาย ๆ วง แต่มีเทคโนโลยีปรับความโค้งในเนื้อเลนส์ให้แตกต่างและยืดระยะการมองได้ยาวขึ้น ลดการใช้แว่นในชีวิตประจำวัน ใช้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ช่วยให้มองเห็นต่อเนื่องและมองชัดในระยะที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะมองไกลและระยะกลาง

  • การใช้คอมพิวเตอร์หรือทำกับข้าวดีกว่าเลนส์ชัดระยะเดียว มองใกล้พอใช้งานได้ แต่อาจไม่คมชัดเท่าเลนส์ชัด 3 ระยะ (Trifocal IOL) แต่ลดการใช้แว่นตามากกว่าเลนส์ชัดระยะเดียว 
  • การใช้งานกลางคืนที่แสงน้อย EDoF IOL ลดปัญหาแสงรบกวน เช่น แสงฟุ้งหรือกระจายตอนกลางคืน ซึ่งมักพบในเลนส์ชัด 3 ระยะ

การทำงานของเลนส์เทียมที่ลดการพึ่งพาแว่น เช่น เลนส์โฟกัสหลายระยะ / 3 ระยะ หรือ EDoF IOL นั้นจะไม่เหมือนการมองโดยแว่นสองชั้นหรือแว่นโปรเกรสซีฟ (Progressive) ที่ต้องเหลือบหรือหาตำแหน่งที่จะมอง เนื่องจากลักษณะการออกแบบของเลนส์ต่างกับเลนส์แว่น ปรับตัวง่าย มองเห็นได้เหมือนปกติ โดยการเรียนรู้ของสมองหาจุดโฟกัสที่ต้องการได้อัตโนมัติ ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือนจะค่อย ๆ เรียนรู้ ปรับตัว หาระยะห่างที่เหมาะสมของการใช้งานในระยะใกล้ เช่น อ่านหนังสือหรือใช้มือถือ และระยะกลาง เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ การทำอาหารได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อเวลาผ่านไป 3 – 6 เดือนจะปรับระยะชัดได้ชินมากขึ้นและปัญหาแสงรบกวนกลางคืนจะน้อยลง

เมื่อเลือกเลนส์หลัก 1 ใน 3 ประเภทข้างต้นที่ตอบโจทย์ความต้องการแล้ว หากพบว่าตาข้างใดของผู้ป่วยมีสายตาเอียง ซึ่งเกิดจากกระจกตาโค้งไม่เท่ากัน (ซึ่งจะทราบหลังตรวจประเมิน) แพทย์จะแนะนำให้ใส่เลนส์แก้วตาเทียมแก้สายตาเอียงไปในตัว (Toric IOL) ซึ่งเป็น option เสริมในเลนส์หลักทั้ง 3 ประเภท เพื่อแก้สายตาเอียงไปพร้อมกันทีเดียว จุดประสงค์เพี่อทำให้ภาพคมชัดที่สุดตามคุณสมบัติของเลนส์นั้น ๆ ซึ่งจะต้องใส่เลนส์แก้เอียงหรือไม่ แพทย์จะดูค่าความโค้ง / สายตาเอียงตามตาแต่ละข้างเป็นหลัก อาจไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับสายตาเดิมก่อนผ่า

ข้อจำกัดหลังผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE)

  • แสงรบกวนเมื่ออยู่ในที่มืด พบได้เฉพาะเลนส์โฟกัสหลายระยะ ที่พบบ่อยคือ การเห็นแสงวง (Halo) เห็นวงแหวน (Ring) แสงกระจาย (Glare) หรือแสงเป็นแฉก (Starburst) รอบๆดวงไฟในเวลากลางคืนโดยเฉพาะเวลาที่ขับรถแต่การเกิดแสงรบกวนหลังผ่าตัดมักน้อยกว่าแสงรบกวนจากภาวะสายตาสั้นเอียงหรือยาวหรือแสงรบกวนจากต้อกระจก
  • หลังผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) 3 – 6 เดือนสมองจะค่อยๆปรับตัวให้มองเห็นแสงรบกวนน้อยลงเรื่อยๆแต่อาจไม่หายไปทั้งหมดผู้ป่วยส่วนใหญ่จะปรับตัวได้จนแสงไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันและการขับรถในเวลากลางคืนแต่ยังมีผู้ป่วยส่วนน้อยที่เห็นแสงรบกวนจนไม่สามารถทนได้
  • การอ่านหนังสือหรือทำงานที่ต้องเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนต้องมีแสงสว่างที่เพียงพอ การขับรถในที่มืดอาจทำให้มองเห็นวัตถุข้างทางลำบากต้องใช้ความระมัดระวังและต้องปรับตัวในช่วงแรก

Refractive Lens Exchange (RLE) ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้สายตาให้มองชัดทุกระยะ

ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE)

การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) เป็นวิธีการเดียวกันกับการผ่าตัดต้อกระจก ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนจึงคล้ายกับการผ่าตัดต้อกระจกส่วนใหญ่สามารถดูแลได้ อาทิ

  • จอประสาทตาหลุดลอกมีโอกาสเกิดได้มากขึ้นในกลุ่มคนที่มีค่าสายตาสั้นมาก
  • การติดเชื้อในลูกตา
  •  เลือดออกในลูกตาหรือเลือดออกใต้ชั้นจอประสาทตา
  •  เลนส์ตาเลื่อนตำแหน่ง
  • ความดันในลูกตาสูงอาจส่งผลทำให้เกิดต้อหินในระยะยาว
  • จอประสาทตาจุดรับภาพชัดบวมหลังผ่าตัด
  •  ถุงหุ้มเลนส์หย่อน ถุงหุ้มเลนส์ฉีกขาด อาจส่งผลให้ต้องใส่เลนส์โฟกัสระยะเดียวเท่านั้น
  • กระจกตาบวม ส่วนใหญ่เป็นแบบชั่วคราวหลังผ่าตัด 1 – 2 สัปดาห์ มีน้อยมากที่อาจเกิดการบวมแบบถาวร
  • ตาแห้งชั่วคราวหลังผ่าตัด 3 – 6 เดือนแรก

ดูแลหลังผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) อย่างไร

  • หลังผ่าตัดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์สามารถใช้ดวงตาได้ตามปกติ
  • พักสายตาประมาณ 3 – 5 วันโดยกลับไปทำงานที่ไม่ต้องออกแรงและไม่อยู่ในสถานที่ที่ฝุ่นควันเยอะ
  • หลังผ่าตัดประมาณ 3 – 5 วัน สามารถใช้คอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือได้
  • ห้ามดวงตาโดนน้ำอย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ระวังฝุ่นควัน
  • ใส่แว่นตาหรือแว่นกันแดดป้องกัน
  • ครอบตาก่อนนอนประมาณ 2 สัปดาห์
  • งดก้มตํ่ากว่าเอว ก้มยกของ หรือยกของหนัก ๆ เป็นเวลา 2 – 4 สัปดาห์
  • ห้ามขยี้ตารุนแรงหรือกดนวดเบ้าตาหลังทำผ่าตัดจนครบ 1 เดือน
  • งดออกกำลังกายประมาณ 1 เดือน แต่สามารถเดินหรือขึ้นลงบันไดได้ปกติ
  • หยอดยาฆ่าเชื้อ 2 สัปดาห์และยาแก้อักเสบ 1 เดือนตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

Refractive Lens Exchange (RLE) ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้สายตาให้มองชัดทุกระยะ

เลือกกำลังของเลนส์แก้วตาเทียมให้เหมาะกับดวงตาอย่างไร

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดและสูตรในการคำนวณเบอร์เลนส์แก้วตาเทียมที่ใส่ โดยใช้หลักการคำนวณจากค่าต่าง ๆ ที่วัดได้ก่อนผ่าตัด เช่น ความโค้งกระจกตา ความยาวลูกตา และค่าต่าง ๆ ในตา ทำให้ค่าสายตาที่ได้หลังผ่าตัดเป็นค่าที่เหมาะสมมากที่สุด แต่หากการมองเห็นหลังผ่าตัดไม่คมชัดเพียงพอ อาจต้องใส่แว่นสายตาเสริมค่าสายตาหรือทําเลเซอร์แก้สายตา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินโดยจักษุแพทย์เป็นสำคัญ

การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมหรือ Refractive Lens Exchange (RLE) เป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาค่าสายตาในระยะยาว โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยเปลี่ยนเลนส์ธรรมชาติเป็นเลนส์เทียมที่ปรับให้เหมาะกับ ความต้องการของแต่ละบุคคล ช่วยให้มองเห็นชัดขึ้น ลดการใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมไม่ได้เหมาะกับทุกคน ก่อนตัดสินใจควรศึกษาข้อมูล ข้อดี ข้อจำกัด และต้องได้รับคำปรึกษาและตรวจตาอย่างละเอียดจากจักษุแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อให้ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ

ทำไมต้องผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ

  • จักษุแพทย์ผู้ชำนาญการที่ผ่านการฝึกอบรม มีความชำนาญและมากด้วยประสบการณ์
  • ตรวจประเมินก่อนผ่าตัดอย่างละเอียด ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและทีมสหวิชาชีพ
  • มีเทคโนโลยีเลนส์แก้วตาเทียมรุ่นใหม่ที่ออกแบบตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล
  • ดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจประเมิน การผ่าตัด จนถึงการติดตามผลหลังผ่าตัด

โรงพยาบาลที่ชำนาญการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) ที่ไหนดี

ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต โดยทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางที่มากด้วยประสบการณ์และทีมสหสาขาที่พร้อมดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัยในการผ่าตัดรักษาต้อกระจกเพื่อให้สุขภาพดวงตากลับมาแข็งแรงทุกการมองเห็น

แพทย์ที่ชำนาญการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE)

พญ.ธารินี เสงี่ยมพรพาณิชย์ จักษุแพทย์ชำนาญการด้านกระจกตาและผ่าตัดแก้ไขสายตา ต้อกระจก โรงพยาบาลกรุงเทพ

สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง

แพ็กเกจผ่าตัดรักษาดวงตา

แพ็กเกจผ่าตัดรักษาดวงตา ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลกรุงเทพ ราคาเริ่มต้นที่ 75,000 บาท

ดูแพ็กเกจผ่าตัดรักษาดวงตา คลิก

ข้อมูลโดย

Doctor Image

พญ. ธารินี เสงี่ยมพรพาณิชย์

จักษุวิทยา

พญ. ธารินี เสงี่ยมพรพาณิชย์

จักษุวิทยา

Doctor profileDoctor profile

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลกรุงเทพ

ชั้น 5 อาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพ

เปิดให้บริการ

จันทร์-ศุกร์ 08.00 - 19.00 น.

เสาร์ 08.00 - 17.00 น

อาทิตย์ 08.00 - 16.00 น.