เสริมหน้าอก รู้ให้จริง เลือกให้เป็น สวยได้สบายใจ

6 นาทีในการอ่าน
เสริมหน้าอก รู้ให้จริง เลือกให้เป็น สวยได้สบายใจ
โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

ปัจจุบันมีผู้ที่ได้รับการผ่าตัดเสริมหน้าอกทั่วโลกมาแล้วกว่า 10 ล้านคน จากสถิติในปี 2018 ของ American Society of Plastic Surgeons (ASPS)  การผ่าตัดเสริมหน้าอกยังเป็นการผ่าตัดเสริมความงามที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอันดับที่ 1 โดยมีผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดมากกว่า 3 แสนราย สำหรับประเทศไทยจากข้อมูลของ International Society for Aesthetic Plastic Surgery (ISAPS) มีรายงานการผ่าตัดเสริมหน้าอกที่ได้รับการบันทึกประมาณ 14,000 ราย แต่ในความเป็นจริงคาดว่าโดยรวมทั้งหมดน่าจะมีมากกว่า 20,000 รายต่อปี

 

การเสริมหน้าอกคืออะไร

การผ่าตัดเสริมหน้าอกในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 แบบ สามารถทำแบบใดแบบหนึ่งหรือทำร่วมกันทั้งสองอย่างในครั้งเดียวได้ ประกอบไปด้วย

  1. การเสริมหน้าอกด้วยเต้านมเทียม (Breast Implant Augmentation)
  2. การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer Augmentation) เป็นวิธีที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะใช้เนื้อเยื่อตนเอง ไม่ใช้วัตถุแปลกปลอม มีความเป็นธรรมชาติสูง แต่มีข้อจำกัดหลายเรื่อง ได้แก่ จำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพิ่มเติมคือ การดูดไขมัน ซึ่งต้องมีอุปกรณ์เฉพาะและการอยู่ตัวของไขมันที่ฉีดอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

ซิลิโคนเสริมหน้าอกมีกี่รูปแบบ

ซิลิโคนที่ใช้เสริมหน้าอกในปัจจุบันเกือบทั้งหมดจะใช้ซิลิโคนเจล (Silicone Gel) ซึ่งผิวภายนอกเป็นถุงซิลิโคนและภายในมีลักษณะเป็นเจล โดยพื้นฐานจะเป็นรูปทรงกลมเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในมิติและการสัมผัส

ผิวภายนอกซิลิโคนมี 2 ชนิด ได้แก่

  1. ผิวภายนอกซิลิโคนชนิดหยาบหรือผิวทราย (Textured)
  2. ผิวภายนอกซิลิโคนแบบผิวเรียบ (Smooth)

นอกจากนี้ยังมีรูปทรงหลายชนิดให้เลือก เช่น ทรงกลม (Round) ทรงหยดน้ำ (Teardrop) รวมทั้งขนาดและความนูนในระดับต่าง ๆ

ซิลิโคนเสริมหน้าอกใช้งานได้นานไหม

ปัจจุบันซิลิโคนเต้านมเทียมมีคุณภาพและความคงทนที่ค่อนข้างดีไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามเวลา 5 ปี หรือ 10 ปี โดยในส่วนของเต้านมเทียมผิวขรุขระหรือผิวทราย (Textured Implant) ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในประเทศไทย มีข้อมูลระบุว่าสามารถลดการเกิดพังผืดหดรัดและมีพื้นผิวที่สามารถยึดเกาะได้ดี จึงเหมาะกับซิลิโคนเต้านมบางประเภท เช่น ทรงหยดน้ำ ซึ่งต้องการการยึดเกาะที่ดีเพื่อให้ไม่มีการพลิกหรือหมุนตัว แต่ละยี่ห้อจะมีความละเอียดของผิวทรายที่แตกต่าง ตั้งแต่แบบหยาบหรือขรุขระมาก (Macrotexture) จนถึงแบบละเอียด (Micro – Nano Texture) ควรเลือกซิลิโคนผิวขรุขระให้เหมาะสมภายใต้คำแนะนำของศัลยแพทย์และมีการเฝ้าระวังและตรวจเช็กหน้าอกอย่างสม่ำเสมอ

เลือกซิลิโคนอย่างไรให้เหมาะสม

การเลือกซิลิโคนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เพราะสรีระร่างกายแต่ละคนต่างกัน โดยศัลยแพทย์จะใช้ข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และแนะนำการเลือกชนิดและขนาดซิลิโคนที่เหมาะสม ได้แก่

  • ขนาดความสูงและความกว้างของลำตัว 
  • ลักษณะของเนื้อหน้าอกเดิมเช่นความหย่อนคล้อยความหนาของผิวหนังและไขมันบริเวณหน้าอก
  • ความชอบส่วนบุคคล บางคนชอบทรงพุ่งนูนค่อนข้างแน่น บางคนชอบแบบนุ่มนวลธรรมชาติ

ผ่าตัดเสริมหน้าอกอย่างไร

การผ่าตัดเสริมหน้าอกสามารถเลือกบริเวณของแผลผ่าตัดที่จะใช้ในการใส่ซิลิโคนได้ ประกอบไปด้วย

  • ใต้ราวนม การผ่าตัดแผลใต้ราวนมสามารถจัดวางตำแหน่งได้ถูกต้อง เสียเลือดน้อย และฟื้นตัวรวดเร็ว รวมทั้งใช้เป็นแผลผ่าตัดหลักในกรณีที่ทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนซิลิโคน 
  • ใต้รักแร้หรือรอบปานนม การผ่าตัดแผลใต้รักแร้และบริเวณหัวนมจะทำได้ยากกว่า มีการช้ำและเสียเลือดมากกว่า การพักฟื้นใช้เวลานานกว่า

ตำแหน่งการวางซิลิโคนคือบริเวณใด

โดยทั่วไปตำแหน่งในการวางซิลิโคนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อ บนกล้ามเนื้อ กึ่งบนและใต้กล้ามเนื้อ หรือใต้เนื้อหน้าอก ซึ่งศัลยแพทย์จะแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมกับแต่ละคน โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่

  • ความหนาของเนื้อบริเวณหน้าอก 
  • ความหย่อนคล้อยของหน้าอก 
  • ลักษณะของทรวงอก   

เตรียมตัวก่อนเสริมเต้านมอย่างไร

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมเต้านม ได้แก่

  • ตรวจร่างกาย
  • ตรวจเลือด
  • เอกซเรย์ปอด
  • ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจตามเกณฑ์ 
  • งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนมาผ่าตัด
  • หยุดยาที่รับประทานบางชนิดก่อนการผ่าตัด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามิน สมุนไพร
  • หยุดสูบบุหรี่และหยุดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด

กระบวนการเสริมเต้านมมีขั้นตอนอย่างไร

กระบวนการเสริมเต้านมจะทำเป็นขั้นตอน ได้แก่

  • วิสัญญีแพทย์ให้การดมยาสลบก่อนเริ่มการผ่าตัด
  • ศัลยแพทย์จะเริ่มทำการผ่าตัดตามที่ได้วางแผนกับผู้มารับการเสริมหน้าอก โดยทำการเลาะช่องบริเวณหน้าอก ใส่ซิลิโคน และเย็บปิดแผล
  • การผ่าตัดเสริมหน้าอกใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง 

ภาวะแทรกซ้อนหลังเสริมเต้านม

ภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการเสริมเต้านม ได้แก่

  • ปวด
  • บวม
  • มีไข้สูง
  • แผลอักเสบติดเชื้อ
  • มีน้ำเหลืองหรือเลือดออกจากแผลผ่าตัด
  • คลำได้ก้อนบริเวณหน้าอก   
  • ผลข้างเคียงจากยาสลบ ยาแก้ปวด เช่น คลื่นไส้ อาเจียน   
  • ผลระยะยาวจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเกิดพังผืดหดรัด การเคลื่อนตำแหน่งของซิลิโคน  การหย่อนคล้อยของหน้าอก รวมทั้งการผิดรูป เช่น  แข็งตัวหรือเสียรูปทรง หรือการแตกของถุงซิลิโคน

ดูแลหลังเสริมเต้านมอย่างไร

การดูแลหลังเสริมเต้านม ประกอบไปด้วย

  • การดูแลแผลผ่าตัด ในช่วงสัปดาห์แรกสามารถอาบน้ำได้ เนื่องจากแพทย์จะทำการปิดฟิล์มกันน้ำ แต่หลีกเลี่ยงการลงไปแช่ในน้ำหรือว่ายน้ำในสระ หลังจากพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กและแผลหายดีแล้วจะมีการแนะนำให้ใช้ครีมทาแผลเป็นหรือแผ่นซิลิโคนปิดแผลเป็น     
  • การดูแลหน้าอกหลังใส่ซิลิโคน แนะนำให้ใส่บราชนิดไม่มีโครงอย่างน้อย 1 เดือน หลีกเลี่ยงการกดทับหรือกระแทกบริเวณหน้าอก และการออกกำลังกายที่ใช้แขนมากในช่วง 1 เดือนแรก   
  • การดูแลอื่น ได้แก่ งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ รวมทั้งของหมักดอง อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
  • การดูแลในระยะยาว หมั่นตรวจเช็กหน้าอกด้วยตัวเองและตรวจแมมโมแกรมตามกำหนด

ผ่าตัดแก้ไขหน้าอกคืออะไร

ผู้ที่ได้รับการเสริมหน้าอกอาจมีโอกาสเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น

  • เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น มีการอักเสบ ติดเชื้อ หรือมีเลือดออก
  • มีภาวะผังผืดหนาหดรัดตัว
  • มีการแตกของซิลิโคน (Implant Rupture) ซึ่งปัจจุบันพบได้น้อยมาก
  • มีความต้องการเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของซิลิโคน

เลือกซิลิโคนแบบไหนให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ปัจจุบันซิลิโคนเป็นผิวเรียบทั้งหมด การเลือกซิลิโคนให้ดูเป็นธรรมชาติขึ้นอยู่กับขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป เหมาะกับส่วนสูง รูปร่าง ขนาดลำตัว ถ้าเลือกรูปทรงแบบพุ่งหรือนูนจะมีมิติส่วนเว้าส่วนนูนของร่างกาย แต่ความเป็นธรรมชาติจะลดลง รวมถึงชนิดของซิลิโคน ถ้าเลือกซิลิโคนค่อนข้างแข็งจะให้ความรู้สึกแน่นหรือเห็นได้ชัด แต่ถ้าเลือกซิลิโคนที่มีความนุ่มหรือคล้อยเหมือนหน้าอกจริงจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเยอะควรเสริมเต้านมแบบใด

ในผู้ที่มีเนื้อหน้าอกค่อนข้างเยอะ วิธีที่เหมาะสมคือการวางซิลิโคนบริเวณใต้หน้าอกเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ เนื่องจากไม่มีความแข็งของกล้ามเนื้อมาบดบังและไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของซิลิโคน ตำแหน่งที่วางจึงค่อนข้างคงที่และมีสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ

ผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อยควรเสริมเต้านมแบบใด

ในผู้ที่มีเนื้อหน้าอกค่อนข้างน้อยหรือมีรูปร่างผอมมาก วิธีที่เหมาะสมคือการวางซิลิโคนบริเวณใต้กล้ามเนื้อ เพราะกล้ามเนื้อช่วยบดบังขอบและรอยพับซิลิโคนได้ ต่างจากการวางใต้หน้าอกที่เสี่ยงต่อการเห็นรอยต่อ รอยขอบ รอยพับของซิลิโคนง่ายจึงควรวางไว้ใต้กล้ามเนื้อ

ถ้าซิลิโคนแตกทำอย่างไร

ปัญหาซิลิโคนแตกพบได้น้อยมาก เพราะเทคโนโลยีปัจจุบันก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่หากซิลิโคนแตกอาการที่สังเกตได้ คือ รูปทรงเปลี่ยนไป หน้าอกแข็ง ลักษณะของเต้านมทั้งสองข้างแตกต่างกันเกินไป วิธีแก้ไขคือ การผ่าตัดเพื่อนำซิลิโคนเก่าออกไปและนำซิลิโคนใหม่ใส่เข้ามา แต่ละคนจะแตกต่างกัน บางคนต้องนำซิลิโคนและพังผืดออกมาแล้วใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไป หรือในบางคนเปลี่ยนแค่ขนาด ไม่ต้องเลาะพังผืดออกทั้งหมด

การยกกระชับหน้าอกคืออะไร

การยกกระชับผิวหนังบริเวณหน้าอกและเนื้อหน้าอก คือ การแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ทำให้หน้าอกตึงขึ้น เนื้อข้างนอกและเนื้อข้างในตึงมากขึ้น โดยเทคนิคการรักษาขึ้นอยู่กับความตึงของเนื้อด้านนอก ถ้าหย่อนคล้อยมากอาจจำเป็นต้องตัดเนื้อมากขึ้น ซึ่งการผ่าตัดหน้าอกทุกรูปแบบมีผลต่อความรู้สึกของผู้ป่วย โดยเฉพาะการยกกระชับหน้าอกอาจทำให้ความรู้สึกหายไปค่อนข้างมาก

อายุกับการเสริมเต้านมมีความสัมพันธ์กันอย่างไร

ในแต่ละช่วงอายุลักษณะของเต้านมจะแตกต่างกัน การเสริมหน้าอกในช่วงอายุน้อยและก่อนมีบุตรจะช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว หน้าอกค่อนข้างกระชับ หย่อนคล้อยช้า แต่มีความตึงสูง และอาจใช้เวลาในช่วงระยะแรกก่อนที่รูปทรงจะเข้าที่ ส่วนการเสริมหน้าอกในช่วงที่อายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังมีบุตร หน้าอกจะมีการขยายตัวมาบ้างแล้ว และมีความยืดหยุ่น ทำให้รูปทรงเข้าที่ได้เร็ว แต่ก็อาจทำให้มีการหย่อนคล้อยเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะบางรายที่หน้าอกเดิมมีการหย่อนคล้อยมากอาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดยกกระชับไปด้วย

เพราะศัลยแพทย์มีส่วนสำคัญทั้งในขั้นตอนก่อนผ่าตัด การเลือกซิลิโคน การแนะนำวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม ตลอดจนขั้นตอนการผ่าตัดให้ได้ผลดีและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจเสริมหน้าอกควรศึกษาข้อมูลและเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ประกอบกับมีทีมสหสาขาที่มากด้วยประสบการณ์เพื่อผลการผ่าตัดที่น่าพอใจ

แพทย์ที่ชำนาญด้านศัลยกรรมเต้านม

นพ.นฤพนธ์ โรจนพิทยากร ศัลยแพทย์ตกแต่ง ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลกรุงเทพ

สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง

โรงพยาบาลที่ชำนาญด้านศัลยกรรมเต้านม

ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมให้การผ่าตัดเสริมเต้านมโดยศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความชำนาญเฉพาะทาง พยาบาล และทีมสหสาขาวิชาชีพ พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตลอดจนให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่ต้องการ เพิ่มความมั่นใจในทุกการใช้ชีวิต

ข้อมูลโดย

Doctor Image

นพ. นฤพนธ์ โรจนพิทยากร

ศัลยศาสตร์ตกแต่ง

นพ. นฤพนธ์ โรจนพิทยากร

ศัลยศาสตร์ตกแต่ง

Doctor profileDoctor profile

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง โรงพยาบาลกรุงเทพ

ชั้น 1 อาคารโรงพยาบาลกรุงเทพ

เปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 08.00 – 16.00 น.