บริการของเรา:
ศูนย์ให้บริการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้บริการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยทั้งคนไทยและต่างชาติด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ตั้งแต่ปี 2566 จำนวนกว่า 700 คน* ครอบคลุมการผ่าตัดรักษาโรคหลากหลาย และโรคซับซ้อน เช่น นิ่วถุงน้ำดี ตับ ตับอ่อน ลำไส้ ฯลฯ รักษาผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย
*ข้อมูลจำนวนคนเข้ารับการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดของโรงพยาบาลกรุงเทพปี 2568
ข้อมูล หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด the da Vinci Xi
การใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด คืออะไร:
Robotic-Assisted Surgery การใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด คือ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยให้ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดที่ละเอียดอ่อนในจุดที่ยาก ต่อการเข้าถึง และจุดที่มีความซับซ้อน ลดผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้เป็นอย่างดี โดยใช้ระบบหุ่นยนต์เป็นเครื่องมือเสริมในการผ่าตัด แต่ยังคงควบคุมโดยศัลยแพทย์ ตลอดเวลา ไม่ใช่การผ่าตัดอัตโนมัติด้วยตัวหุ่นยนต์
- แพทย์จะนั่งควบคุมอยู่ที่ “คอนโซลควบคุม” ซึ่งเป็นจอภาพ 3 มิติความละเอียดสูง พร้อมด้วยอุปกรณ์ควบคุมมือ ที่สามารถสั่งการแขนกลของหุ่นยนต์ให้เคลื่อนไหวได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
- องค์ประกอบสำคัญของการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์
- หุ่นยนต์ผ่าตัด (Patient-side Cart) มีแขนกลหลายแขน ทำหน้าที่เป็น “มือ” ของศัลยแพทย์ ถือกล้องและเครื่องมือผ่าตัด
- กล้อง 3 มิติความละเอียดสูง (3D Endoscope) แสดงภาพจากภายในร่างกายแบบขยาย ทำให้ศัลยแพทย์เห็นชัดเจน
- คอนโซลควบคุมของศัลยแพทย์ (Surgeon Console) ศัลยแพทย์ควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนกลผ่านจอและจอยสติ๊กละเอียดสูง
รักษาโรคอะไรบ้าง:
- ระบบทางเดินอาหาร – ลำไส้ ตับ ตับอ่อน ถุงน้ำดี
- ผ่าตัดมดลูก ซีสต์ หรือเนื้องอกในนรีเวช
- ต่อมลูกหมากหรือระบบทางเดินปัสสาวะ
- ปอดและทรวงอก
ข้อดีของการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด:
- เข้าถึงตำแหน่งที่เข้าถึงได้ยากและซับซ้อน
- ความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่ำ
- แผลเล็ก เจ็บน้อย ใช้เวลาพักฟื้นน้อย
- เสียเลือดน้อย
ทีมแพทย์:
ศูนย์ให้บริการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด โรงพยาบาลกรุงเทพ มีทีมศัลยแพทย์ ผ่านการอบรมการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด
ทีมศัลยแพทย์
- นพ.ชนินทร์ ปั้นดี: ศัลยแพทย์ผ่าตัดรักษาไส้เลื่อน นิ่วในถุงน้ำดี และลำไส้ใหญ่
- รศ. นพ.ธัญญ์ อิงคะกุล: ศัลยแพทย์ผ่าตัดรักษาเนื้องอกตับ ตับอ่อน ท่อน้ำดี ถุงน้ำดี และไส้เลื่อน
- ผศ. นพ.สุปรีชา อัสวกาญจน์: ศัลยแพทย์ผ่าตัดรักษาโรคเนื้องอกตับ ตับอ่อน ไส้เลื่อน และนิ่วในถุงน้ำดี รวมถึงการปลูกถ่ายอวัยวะ
- นพ.ร่มเย็น จิตมุ่งงาน: ศัลยแพทย์ผ่าตัดรักษาโรคซับซ้อนทางทวารหนักและลำไส้ใหญ่
- พญ.หยิงฉี หวัง: ศัลยแพทย์ผ่าตัดรักษาโรคเนื้องอก ซีสต์รังไข่ และเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- นพ.ผดุงเกียรติ ตั้งพิรุฬห์ธรรม: ศัลยแพทย์ผ่าตัดรักษาโรคปอดและทรวงอก
- นพ.ธเนศ ไทยดำรงค์: ศัลยแพทย์ผ่าตัดรักษาทางเดินปัสสาวะและต่อมลูกหมาก
ให้บริการโดยทีมแพทย์สหสาชาวิชาชีพ :
ศูนย์ให้บริการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด โรงพยาบาลกรุงเทพ มีทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพทำงานร่วมกัน วางแผนการรักษาเพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างเหมาะสมเฉพาะบุคคล นอกจากศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดที่มีประสบการณ์ความชำนาญแล้ว เรามีทีมแพทย์สำหรับผู้สูงวัย (อายุรวัฒน์) และแพทย์วิสัญญีที่ทำงานร่วมกันเป็นทีม มีการเตรียมความพร้อมคนไข้ก่อนผ่าตัด ยิ่งหากผู้ป่วยสูงวัยอายุมากกว่า 75 ปี มีการดูแลร่วมกับแพทย์ที่ดูแลผู้สูงอายุ (อายุรวัฒน์) เพื่อดูความพร้อมหากคนไข้มีโรคประจำตัว วางแผนเรื่องยาและโภชนาการให้มั่นใจเพื่อให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดตามแผนที่วางไว้
- ก่อนผ่าตัด มีทีมแพทย์วิสัญญีที่ประเมินความเสี่ยงก่อนผ่าตัด ปรับแผนการให้ยาตามโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หอบหืด โรคหัวใจ ฯลฯ
- ขณะผ่าตัด ดูแลผู้ป่วยช่วงตื่นหลังการผ่าตัดช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวจากฤทธิ์ของยาได้อย่างปลอดภัย
- หลังผ่าตัด ดูแลการควบคุมความเจ็บปวดภายหลังการผ่าตัด เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือปัญหาการหายใจ รวมทั้งมีฟื้นฟูหลังผ่าตัด (ERAS) และสอนเทคนิคการฟื้นฟูร่างกายเพื่อกลับไปปฏิบัติต่อที่บ้านได้อย่างอุ่นใจ จนสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้งภายใน 5 วัน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ปลอดภัยไหม?
รพ. เน้นความปลอดภัยของผู้ป่วย ในการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ควบคุมโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง หุ่นยนต์เป็นเพียง “ผู้ช่วย” ที่เพิ่มความแม่นยำ ไม่ใช่การผ่าตัดอัตโนมัติ
2. ผ่าตัดหุ่นยนต์แตกต่างจากผ่าตัดผ่านกล้องทั่วไปอย่างไร?
หุ่นยนต์ช่วยให้ศัลยแพทย์ มองเห็นภาพ 3 มิติ ขยายชัดเจน และควบคุมแขนกลที่เคลื่อนไหวละเอียดกว่ามือมนุษย์หลายเท่า → แผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็วกว่า
3. หลังผ่าตัดต้องนอนโรงพยาบาลกี่วัน?
ขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัด ส่วนใหญ่ผู้ป่วยสามารถ ลุกเดินได้ภายใน 1–2 วัน และกลับบ้านได้ภายในประมาณ 5 วัน ขึ้นอยู่กับโรคและความแข็งแรงของร่างกายแต่ละบุคคล
4. ค่าใช้จ่ายแพงกว่าการผ่าตัดแบบเดิมหรือไม่?
ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการผ่าตัดทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับการ พักฟื้นที่สั้นลง กลับไปทำงานได้เร็วขึ้น ลดภาวะแทรกซ้อนและการกลับมารักษาซ้ำ ถือว่าคุ้มค่าและปลอดภัยกว่าในระยะยาว
5. ใครบ้างที่เหมาะกับการผ่าตัดหุ่นยนต์?
เหมาะกับผู้ที่ต้องการ แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และต้องผ่าตัดในตำแหน่งที่ซับซ้อน เช่น ตับ ตับอ่อน ถุงน้ำดี มดลูก รังไข่ ต่อมลูกหมาก หรือทรวงอก
6. ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนผ่าตัด?
แพทย์จะมีการตรวจสุขภาพและวางแผนเฉพาะบุคคล เช่น การปรับยา การเตรียมโภชนาการ รวมถึงการดูแลโรคร่วม เพื่อให้คุณพร้อมที่สุดก่อนเข้ารับการผ่าตัด

