หลอดเลือดหัวใจตีบตันคืออะไร
โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease) หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ คือ โรคที่พบมีการตีบแคบลงของหลอดเลือดแดงหัวใจโคโรนารี เกิดจากคราบไขมัน คราบน้ำตาล และสารต่าง ๆ ที่สะสมอยู่ที่ผนังด้านในของหลอดเลือด ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด บางรายที่คราบหรือตะกรันที่เกาะอยู่มีการหลุดออกมาอุดหลอดเลือดโดยเฉียบพลัน ทำให้หัวใจขาดเลือดเฉียบพลันจะมีอาการแน่นจุกอกที่รุนแรงหรือเสียชีวิตทันทีจากหัวใจหยุดเต้นหรือเต้นผิดจังหวะที่เรียกกันว่า Heart Attack หรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันเฉียบพลัน (Acute Coronay Syndrome) เมื่อการอักเสบที่หลอดเลือดเกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นเวลานานประมาณ 2 – 5 ปีก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นคราบหินปูน ไขมัน และพังผืดเพิ่มขึ้นมากจนทำให้รูด้านในของหลอดเลือดตีบแคบลงและทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ ทำให้มีอาการแน่นหน้าอกเวลาออกแรง เมื่อหัวใจที่ทำหน้าที่คล้ายปั๊มน้ำคอยสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้รับเลือด สารอาหาร และออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้การทำงานลดลง เลือดที่ถูกปั๊มและสูบฉีดจากหัวใจไปยังอวัยวะต่าง ๆ ลดลง ทำให้มีอาการเหนื่อย หัวใจล้มเหลว เมื่อหลอดเลือดแดงหัวใจเกิดการตีบหรือตัน ทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและรวดเร็ว

การตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจคืออะไร
การตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ (CAG – Coronary Angiogrphy) คือ การตรวจหลอดเลือดหัวใจด้วยการใส่สายสวนผ่านหลอดเลือดบริเวณขาหนีบหรือข้อมือผ่านไปยังตำแหน่งหลอดเลือดหัวใจและทำการฉีดสารทึบรังสีหรือที่เรียกว่าฉีดสีเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจโดยตรง เพื่อแสดงรอยโรคของเส้นเลือดหัวใจว่ามีการตีบตัน โดยจะมีการบันทึกภาพและภาพเคลื่อนไหวขณะฉีดสีหัวใจ ทำให้อายุรแพทย์หัวใจผู้ทำหัตถการสวนหัวใจสามารถพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมในขั้นตอนต่อไป เช่น การขยายด้วยบอลลูน การใส่ขดลวดค้ำยัน หรือปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อทำการรผ่าตัดบายพาส รวมทั้งการรับประทานยาและการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

การตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจใช้เวลานานเท่าไร
โดยทั่วไปการตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจใช้เวลาตรวจประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เมื่อต้องได้รับการขยายหลอดเลือดที่ตีบด้วยบอลลูนและใส่ขดลวดค้ำยันใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หรือน้อยกว่าขึ้นกับรอยโรคที่ตีบตันว่าสามารถทำได้ง่ายหรือยาก อย่างไรก็ตามในบางครั้งอาจใช้เวลาในการตรวจมากขึ้น โดยเฉพาะถ้ามีการทำหัตถกรรมอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้สว่านกรอหัวเพชรในรายที่มีการตีบของหลอดเลือดร่วมกับคราบหินปูนที่หนา เป็นต้น รวมถึงขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนตรวจและการห้ามเลือด หรือสังเกตอาการหลังหัตถการอาจจะเพิ่มระยะเวลาในการตรวจทั้งหมดให้เพิ่มขึ้นได้
ความเสี่ยงจากการตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ
ความเสี่ยงจากการตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ (CAG) พบได้น้อยมาก แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ควรกลับมาพบแพทย์เฉพาะทางหัวใจทันที
- เลือดออกผิดปกติ มีจ้ำเลือดอันใหม่หรือขนาดใหญ่ขึ้นบริเวณที่ทำการเจาะเส้นเลือด
- ปวดมากขึ้น ขัดหรือเคืองบริเวณที่ทำหัตถการ
- อักเสบหรือติดเชื้อ เช่น แดงขึ้น ร้อนขึ้น มีสารน้ำออกมาจากบริเวณที่ทำหัตถการ มีไข้ขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงของสีและอุณหภูมิของขาข้างที่ทำ เช่น เย็นขึ้น เขียวขึ้น หรือม่วงมากขึ้น
- หน้ามืด เป็นลม อ่อนแรง
- อาการแน่นเจ็บหน้าอก หายใจขัด หายใจลำบากมากขึ้น
- ถ้าบริเวณที่ทำหัตถการมีเลือดออกหรือบวมแดงมากขึ้นให้กดบริเวณแผลที่ทำแล้วติดต่อแผนกฉุกเฉินโดยด่วน

ข้อดีของการตรวจสวนหลอดเลือดหัวใจ
- ตรวจวินิจฉัยหลอดเลือดหัวใจตีบตันหรือคราบตะกรันที่หัวใจ
- รู้ตำแหน่งการตีบของเส้นเลือดและความรุนแรงของการตีบของหลอดเลือด
- เช็กผลการใส่ขดลวดและบอลลูน ติดตามผลการทำหัตถการครั้งที่ผ่านมา
- ดูการไหลเวียนของหลอดเลือดหัวใจ
- ทำหัตถการ บอลลูน และใส่ขดลวดหลังฉีดสีได้ทันที
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจร่วมกันระหว่างทีมแพทย์ที่ทำการตรวจและผู้ป่วย รวมถึงญาติเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการแนะนำการรักษาขั้นต่อไป และทำได้ทันทีหลังการฉีดสีหลอดเลือดหัวใจเสร็จเรียบร้อย
โรงพยาบาลรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
คลินิกอายุรกรรมโรคหัวใจ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ พร้อมดูแลรักษาทุกความผิดปกติของหัวใจในทุกมิติ โดยแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญและทีมสหสาขาที่มากด้วยประสบการณ์ ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงยืนยาว
แพทย์ที่ชำนาญการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
นพ.เกรียงไกร เฮงรัศมี ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ
สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง
แพ็กเกจตรวจสุขภาพหัวใจ
แพ็กเกจตรวจสุขภาพหัวใจ ราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท
คลิกที่นี่