CEM ตรวจเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมร่วมกับฉีดสารทึบรังสี

4 นาทีในการอ่าน
CEM ตรวจเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมร่วมกับฉีดสารทึบรังสี
โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ

มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 1 ในสตรีทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย และถือเป็นภัยเงียบของผู้หญิงเพราะมักมาโดยไม่มีสัญญาณเตือน การตรวจเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์แมมโมแกรม (Digital Mammography) ร่วมกับการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงถ่ายภาพเต้านม (Ultrasound) ยังคงเป็นการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นทางรังสีวิทยาของมะเร็งเต้านม แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น มีการตรวจเต้านมที่สามารถได้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อช่วยในการวินิจฉัยในเชิงลึกมากขึ้น เช่น การใช้เครื่องคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI Breast) และ การตรวจเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมร่วมกับฉีดสารทึบรังสี (Contrast Enhanced Mammography: CEM) 


การตรวจเต้านมแบบ
CEM คืออะไร

การตรวจเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมร่วมกับฉีดสารทึบรังสี (Contrast Enhanced Mammography: CEM) ผ่านการตรวจสอบโดยองค์การอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ ค.. 2011 (Food and Drug Administration Approval) มีผลการศึกษาวิจัยรองรับมากมาย และนำมาใช้แพร่หลายในต่างประเทศมากขึ้นในปัจจุบัน โดยใช้หลักการฉีดสารทึบรังสี (Iodinated Contrast Media) และใช้รังสีเอกซเรย์ (X-ray) จากการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรม (Digital Mammography) โดยใช้เทคนิคเฉพาะแบบสองค่าพลังงาน (Dual Energies) และนำภาพจากทั้งสองค่าพลังงาน (Low Energy, High Energy) ไปประมวลผลสร้างภาพเป็น Recombined Images ที่ทำให้สามารถมองเห็นรอยโรคที่ไวต่อรังสีในเนื้อเยื่อเต้านมที่บ่งชี้ว่าเป็นตำแหน่งที่มีเส้นเลือดไปเลี้ยงผิดปกติหรือมะเร็งเต้านมได้อย่างชัดเจนมากขึ้น โดยหลักการคล้ายกับการตรวจเต้านมด้วยเครื่องเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Breast MRI) และมีความถูกต้องชัดเจนมากกว่าเมื่อเทียบกับการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรมทั่วไป โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีเนื้อเต้านมหนาแน่น 

CEM ตรวจเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมร่วมกับฉีดสารทึบรังสี

CEM ตรวจเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมร่วมกับฉีดสารทึบรังสี

ข้อบ่งชี้ในการตรวจเต้านมแบบ CEM

  1. ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเพิ่มเติมในผู้หญิงที่ไม่มีอาการ แต่มีความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านมสูง (Screening for High Risk) เช่น  
    • มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ เช่น มารดาและพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 
    • ตรวจพบยีนในการเกิดมะเร็งเต้านม (BRCA1, BRCA2) 
    • มีประวัติฉายแสงที่บริเวณทรวงอกตั้งแต่อายุ 10 – 30 ปี 
  2. ตรวจคัดกรองเพิ่มเติมในผู้หญิงที่มีประวัติเนื้อเต้านมหนาแน่นจากการตรวจแมมโมแกรมครั้งก่อน (Supplementation Screening for Women with Dense Breast) 
  3. วินิจฉัย (Diagnosis) 
    • ประเมินการวางแผนการรักษาก่อนการผ่าตัดในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม (Pre – Surgical Staging of Known Breast Cancer)
    • เพิ่มความถูกต้องชัดเจนในการวินิจฉัยโรคเต้านมในรายที่ตรวจเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์แล้วไม่สามารถระบุรอยโรคได้แน่ชัด มีความซับซ้อนหรือผลการตรวจไม่อธิบายความผิดปกติที่ผู้ป่วยมี (Inconclusive Findings on Diagnostic Work Up) 
  4. ติดตามผลการรักษาในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่รักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Assessment of Tumor Response to Chemotherapy) 
  5. ช่วยในการนำทางเจาะชิ้นเนื้อที่พบความผิดปกติของเนื้อเยื่อที่ทึบรังสีภายใต้เครื่องแมมโมแกรมเท่านั้น (CEM Guided Biopsy)

ข้อดีของการตรวจเต้านมแบบ CEM

  • เพิ่มความถูกต้องชัดเจนในการตรวจวินิจฉัยหามะเร็งเต้านม 
  • ประเมินการวางแผนก่อนการผ่าตัดในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ลดอัตราการผ่าตัดซ้ำ
  • ลดอัตราการเจาะเต้านมโดยไม่จำเป็น
  • ประหยัดเวลาและราคาถูกกว่าการตรวจเต้านมโดยใช้เครื่อง MRI โดยให้ความถูกต้องใกล้เคียงกัน
  • สามารถใช้ทดแทนในผู้ป่วยที่ไม่สามารถตรวจด้วยเครื่อง MRI ได้ 

ข้อจำกัดของการตรวจเต้านมแบบ CEM

  • ปริมาณรังสีในการตรวจมากกว่าการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรมทั่วไป แต่ไม่มากเกินค่ามาตรฐาน 
  • ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแพ้สารทึบรังสีได้    
  • สำหรับผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยสูงอายุมากกว่า 60 ปี หรือมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง แนะนำให้ตรวจค่าเลือดดูการทำงานของไต (Creatinine Level) ภายในระยะเวลา 3 เดือนก่อนนัดตรวจ
  • ไม่แนะนำผู้ป่วยที่เสริมเต้านมด้วยซิลิโคน
  • ไม่แนะนำให้สตรีมีครรภ์ตรวจ ยกเว้นอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
  • ผู้ป่วยที่ให้นมบุตรสามารถทำการตรวจได้โดยอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์และสามารถให้นมบุตรหลังการตรวจได้ภายใน 12 – 24 ชั่วโมง

เตรียมตัวก่อนได้รับสารทึบรังสีตรวจ CEM

  • แจ้งประวัติสุขภาพ ได้แก่
    • โรคประจำตัว โดยเฉพาะกลุ่มโรคหอบหืด, ภูมิแพ้, ไทรอยด์เป็นพิษ และโรคไต
    • ยาที่ใช้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะยา Metformin ที่ใช้รักษาโรคเบาหวาน
    • การแพ้ยาและอาหาร ทั้งนี้การแพ้อาหารทะเลไม่จัดเป็นข้อห้ามในการได้รับสารทึบรังสี  
    • การได้รับสารทึบรังสี
    • ผลข้างเคียงที่เคยเกิดขึ้นจากการตรวจครั้งก่อน 
  • แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อน ซุป และดื่มน้ำก่อนและหลังการตรวจ
  • ห้ามทาโลชั่น, แป้งฝุ่น, น้ำหอม, สเปรย์ระงับกลิ่นตัวที่บริเวณเต้านมและรักแร้ เนื่องจากทำให้ภาพที่ได้มี Artifact ส่งผลต่อการแปลผลของภาพ 
  • หากเคยตรวจแมมโมแกรมมาก่อน ควรนำผลการตรวจภาพแมมโมแกรมเดิมมาเปรียบเทียบดูการเปลี่ยนแปลง
  • หากมีอาการผิดปกติของเต้านมควรแจ้งเจ้าหน้าที่และรังสีแพทย์ที่ทำการตรวจให้ทราบ    

การปฏิบัติตัวระหว่างฉีดสารทึบรังสีตรวจ CEM

  • พยาบาลผู้ดูแลทำการเปิดเส้นเลือดที่แขนหรือมือก่อนฉีดสารทึบรังสีให้กับผู้ป่วยผ่านเครื่องอัตโนมัติ (Injector)                                        
  • ขณะได้รับสารทึบรังสีเข้าหลอดเลือด ผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกไม่สบายตัว ร้อนวูบวาบ หรือคลื่นไส้เล็กน้อย ซึ่งจะเป็นชั่วคราวและหายไปได้เองในเวลาไม่กี่นาที
  • ภายใน 2 นาทีหลังจากผู้ป่วยได้รับการฉีดสารทึบรังสีแล้ว นักเทคนิครังสีการแพทย์จะทำการจัดท่าถ่ายเอกซเรย์แมมโมแกรม โดยใช้เทคนิค Dual Energies ได้ภาพของเต้านมทั้งสองข้างเพื่อให้รังสีแพทย์แปลผล     

ดูแลหลังการตรวจ CEM

  • กรณีที่รังสีแพทย์พบจุดน่าสงสัย อาจมีการถ่ายภาพเอกซเรย์หรือตรวจอัลตราซาวนด์เพิ่มเติม รวมถึงพิจารณาเจาะชิ้นเนื้อในรายที่พบความผิดปกติ
  • หลังจากเสร็จกระบวนการตรวจและได้รับผลการตรวจ พยาบาลจะทำการถอดสายที่เปิดเส้นเลือดไว้เพื่อดูอาการและทำแผลก่อนให้ผู้ป่วยกลับบ้าน

สังเกตอาการแพ้สารทึบรังสี

หากมีอาการแพ้สารทึบรังสีดังต่อไปนี้ควรรีบแจ้งพยาบาลหรือแพทย์ผู้ดูแลเพื่อประเมินอาการผู้ป่วยได้ทันท่วงที

  • อาการแพ้แบบฉับพลัน ปัจจุบันอาการแพ้สารทึบรังสีพบน้อยและมักเป็นอาการแพ้แบบเฉียบพลันเกิดภายใน 1 ชั่วโมง เช่น มีผื่นขึ้นตามตัว, คันตามผิวหนัง, เคืองตา, น้ำมูกไหล ฯลฯ
  • อาการแพ้รุนแรง พบน้อยมากเพียงร้อยละ 0.04 เช่น หน้าหรือตัวบวม, หายใจลำบาก, หัวใจเต้นเร็ว, หอบเหนื่อยมากขึ้น, ความดันโลหิตต่ำ หรือวูบหมดสติ  ฯลฯ

โรงพยาบาลที่ชำนาญการตรวจเต้านม

โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ มีศูนย์เต้านมที่พร้อมด้วยแพทย์เฉพาะทางและเครื่องมือที่ทันสมัย ตลอดจนทีมสหสาขาที่มากด้วยประสบการณ์ พร้อมให้การตรวจเต้านมอย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจในผลการตรวจ และให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด เพราะมะเร็งเต้านม ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งเพิ่มโอกาสหายขาด และลดโอกาสเป็นซ้ำในอนาคต 


แพทย์ที่ชำนาญการตรวจเต้านม

พญ.ขวัญสกุล บุญศรารักษพงศ์ รังสีแพทย์ผู้ชำนาญการตรวจภาพวินิจฉัยภาพเต้านม ศูนย์เต้านม โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ

สามารถคลิกที่นี่เพื่อทำนัดหมายได้ด้วยตนเอง


แพ็กเกจตรวจเต้านม

แพ็กเกจตรวจเต้านม ราคาเริ่มต้นที่ 5,500 บาท

คลิกที่นี่

ข้อมูลโดย

Doctor Image

พญ. ขวัญสกุล บุญศรารักษพงศ์

รังสีวิทยาทั่วไป

พญ. ขวัญสกุล บุญศรารักษพงศ์

รังสีวิทยาทั่วไป

Doctor profileDoctor profile

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์เต้านม

ชั้น 3 โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ

วันจันทร์ - วันศุกร์ : เปิดบริการ 08.00 - 18.00 น.

วันเสาร์ : เปิดบริการ 08.00 – 16.00 น.

วันอาทิตย์ : เปิดบริการ 08.00 - 15.00 น.