โรคหลอดเลือดสมองตีบ แตก ตัน

2 นาทีในการอ่าน
โรคหลอดเลือดสมองตีบ แตก ตัน
โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์ฯ เพื่อสมองและกระดูก

ทำไมคนอายุน้อยก็เป็นหลอดเลือดสมองตีบ แตก ตันได้ การสังเกตอาการเตือนและควบคุมปัจจัยเสี่ยงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย ที่สำคัญหากมีอาการต้องรีบเข้ารับการรักษาใน 4.5 ชั่วโมงก่อนเซลล์สมองเสียหายและไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม

โรคหลอดเลือดสมองพบมากในคนไทยและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็งเพราะฉะนั้นจึงควรสังเกตอาการและรีบพบแพทย์โดยเร็วเพื่อทำการรักษา

1) สังเกตอาการโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) อย่างไร

อาการของโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรกที่สังเกตได้ คือ

  • พูดไม่ชัด
  • ปากเบี้ยว
  • แขนขาอ่อนแรง
  • เวียนศีรษะ
  • บ้านหมุน
  • ปวดศีรษะมาก

2) ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) คืออะไร

  • ความดันโลหิตสูง
  • ไขมันในเลือดสูง
  • โรคหัวใจ เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ผู้ที่น้ำหนักเกินเกณฑ์ ผู้ป่วยโรคอ้วน
  • ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย
  • หลอดเลือดที่คอตีบ ถ้าตีบมากเกิน 70% ต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยเร็ว
  • ภาวะนอนกรน ผู้ป่วยนอนกรนบางครั้งสมองขาดออกซิเจน เรียกว่า ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea – OSA) การรักษานอกจากลดน้ำหนักแล้วอาจต้องใส่เครื่องพ่นลมเพื่อป้องการขาดออกซิเจนในเวลากลางคืน

3) คนอายุน้อยเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) ได้ไหม

ผู้ป่วยอายุน้อยสามารถเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) ได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ อาจเกิดลิ่มเลือดที่สมองได้ ดังนั้นหากมีอาการหรือพบใครที่มีอาการเป็นโรคหลอดเลือดสมองต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหรือรักษาโรคภายใน 4.5 ชั่วโมง เพราะโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) สำคัญที่สุดคือการดูแลรักษาช่วงแรก

4) Golden Hour คืออะไร

Golden Hour คือ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน เพราะหากเกินเวลาตรงนี้ไปแล้ว เซลล์สมองจะเกิดความเสียหายเรื่อย ๆ และไม่กลับมาเป็นปกติ อาจเสียหายถาวร ดังนั้นภายใน 4.5 ชั่วโมงแรก ถ้าแพทย์ตรวจพบว่ามีเส้นเลือดอุดตัน หากมีขนาดเล็กจะทำการให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ (rt-PA) เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นขึ้นมาได้อย่างน้อย 30% อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยที่มาเกิน 4.5 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง มีเครื่องมือในการตรวจวินิจฉัยและเอกซเรย์หากพบว่าหลอดเลือดอุดตันขนาดใหญ่ แพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางจะใส่สายสวนเพื่อลากลิ่มเลือดออกมา ช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้น Golden Hour จึงเปรียบเสมือนการต่อสู้กับเวลา ซึ่งการจะเอาชนะหลอดเลือดสมองอุดตัน ภายใน 4.5 ชั่วโมงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากในการรักษาโรคนี้

5) ความสำคัญของการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์

ความสำคัญของ Lifestyle Modification หรือการปรับปรุงหรือพัฒนาพฤติกรรมบุคคล ทำอย่างไรจะไม่เป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) และทำอย่างไรจะไม่กลับมาเป็นอีก ซึ่งต้องแก้ที่ปัจจัยเสี่ยง เพราะการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) ดีกว่าการรักษาได้แก่

  • ความดันโลหิตสูง ต้องพยายามควบคุมน้ำหนัก ลดการบริโภคเกลือ ออกกำลังกาย รับประทานผักและผลไม้เยอะ ๆ ถ้าป่วยเป็นความดันโลหิตสูงต้องรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้สม่ำเสมอ
  • งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
  • โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะต้องพบแพทย์โดยเร็วถ้าไม่ได้รับประทานยามีโอกาสที่จะเกิดลิ่มเลือดที่สมองได้

ข้อมูลโดย

นพ.ชาญพงค์ ตังคณะกุล ผู้อำนวยการศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชันแนล

ข้อมูลโดย

Doctor Image

นพ. ชาญพงค์ ตังคณะกุล

ประสาทวิทยา

นพ. ชาญพงค์ ตังคณะกุล

ประสาทวิทยา

Doctor profileDoctor profile

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์สมองและระบบประสาท

ชั้น 1 และชั้น 2 โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล

ทุกวัน

จันทร์ - ศุกร์ 07:00 - 18:00 น.

เสาร์ - อาทิตย์ 07:00 - 17.00 น.