โรคพาร์กินสัน และการเคลื่อนไหวผิดปกติ

การรักษาโรคพาร์กินสัน ที่ได้ผลคือ การรักษาด้วยยาทดเเทนโดพามีนที่ขาดไป ปัจจุบันมียาอยู่หลายชนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น ส่วนในกลุ่มที่เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยามานาน (Motor Fluctuations)

  • รักษาด้วยวิธีฝัง Electrode เพื่อกระตุ้นสมองส่วนลึก (Deep Brain Stimulation) ร่วมด้วย เพื่อลดปริมาณยาที่ใช้เเละลดผลข้างเคียงจากการใช้ยาลงได้ โดยการผ่าตัดจะเเบ่งเป็น 2 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนเเรกจะทำการผ่าตัดเพื่อฝัง Electrode ขนาดเล็กเข้าไปที่สมองส่วน Subthalamic Nucleus โดยทำการผ่าตัดที่สมองทั้งสมองข้าง โดยเจาะรูเล็ก ๆ ที่กะโหลกศีรษะ เเละจะมีการทดสอบว่าผู้ป่วยอาการดีขึ้นไหม
  • รักษาโดยการกระตุ้นสมองส่วนนั้นโดยที่ผู้ป่วยยังรู้ตัวตลอดเวลา
    เมื่อสำเร็จเเล้วจะทำการผ่าตัดขั้นตอนที่สอง คือ ผ่าตัดฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าขนาดเล็ก (IPG DBS ฺBattery) ไว้ที่หน้าอกเเล้วเชื่อมต่อกับสาย Electrode ในสมอง หลังจากนั้น 3 – 4 สัปดาห์จะทำการตั้งโปรเเกรมตัวเครื่องที่หน้าอก เเละดูการตอบสนองของอาการของผู้ป่วยโดยสามรถลดอาการเกร็ง สั่น เเละช่วยให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น โดยการเปิดปิดเครื่องหรือตั้งโปรเเกรมสามารถทำได้จากภายนอกโดยตัว Remote Programmer โดยเเพทย์หรือตัวผู้ป่วยเองก็สามารถทำได้โดยมีเครื่อง Patient Self Programmer เช่นเดียวกัน
  • รักษาด้วย Botulinum Toxin Injection เป็นการรักษาโรคหน้ากระตุก (Hemifacial Spasm) โรคคอบิดเกร็ง (Cervical Dystonia) กล้ามเนื้อเกร็งจากโรคอัมพฤกษ์อัมพาต (Muscle Spasticity) เพื่อลดการเกร็ง การกระตุก เเละความปวดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อลงได้ สารนี้จะไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อชั่วคราว (Transient Focal Muscle Paralysis) โดยไปยับยั้งการปล่อยสาร Acetyl Choline ที่ปลายประสาทที่ต่อกับกล้ามเนื้อ หลังฉีดยาจะไม่ออกฤทธิ์ทันทีต้องใช้เวลา 3 – 4 วันเเละจะออกฤทธิ์สูงสุดในสัปดาห์ที่ 2 เเละผลของการรักษาจะอยู่ได้นานถึง 2 – 3 เดือน นอกจากนี้สารนี้ยังสามารถลดการหลั่งเหงื่อ ซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นตัวได้อีกด้วย

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์สมองและระบบประสาท

ชั้น 1 และชั้น 2 โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล

ทุกวัน

จันทร์ - ศุกร์ 07:00 - 18:00 น.

เสาร์ - อาทิตย์ 07:00 - 17.00 น.

โรคและการรักษา

ดูทั้งหมด