อย่าละเลยอาการปวดระดู

เมื่อมีอาการปวดท้องน้อย โดยเฉพาะปวดท้องน้อยระหว่างมีระดูไม่ใช่เรื่องปกติและไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นอาการของ “โรคสำคัญ” ของคุณผู้หญิง

รู้หรือไม่! ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์จำนวนมากมีความผิดปกติของระดู ไม่ว่าจะเป็นรอบระดูไม่ปกติ มีเลือดระดูมาก มีเลือดกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือนและปวดระดู ในบรรดาอาการเหล่านี้อาการปวดระดูเป็นอาการที่ทรมานคุณผู้หญิงมากที่สุด

อาการปวดระดูเป็นอาการสำคัญของโรคภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) โรคพังผืดชั้นกล้ามเนื้อมดลูก (Adenomyosis) และโรคเนื้องอกมดลูกหลายชนิด เมื่อมีอาการปวดระดู คุณผู้หญิงควรได้รับการตรวจเพื่อให้ได้การวินิจฉัยโรคเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง

ปวดระดูแบบไหนต้องพบแพทย์

1.  อาการปวดระดูรุนแรงขึ้น เช่น ต้องใช้ยาระงับปวดจากเดิมทนได้ไม่ต้องใช้ยาหรือต้องใช้ยาที่แรงขึ้น
2.  จำนวนวันที่ปวดมากขึ้น มีอาการปวดก่อนและหลังวันมีระดูจากเดิม ปวดเฉพาะตอนที่มีระดู
3.  ปวดเรื้อรัง ปวดเกือบทุกวัน และรุนแรงขึ้นขณะมีระดู
4.  มีอาการปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ 
5.  มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ถ่ายปัสสาวะ และ/หรืออุจจาระเป็นเลือด โดยเฉพาะขณะมีระดู

ตรวจวินิจฉัยโรค 

การวินิจฉัยให้พบโรคนั้นไม่ยากและไม่ลำบากสำหรับคุณผู้หญิง มีทั้งการใช้คลื่นความถี่สูงหรืออัลตราซาวนด์ คุณผู้หญิงส่วนใหญ่จะวินิจฉัยด้วยคลื่นความถี่สูง การใช้กล้องส่องในอุ้งเชิงกรานเป็นวิธีการที่ช่วยวินิจฉัย เมื่อใช้คลื่นเสียงความถี่สูงไม่ได้ผล การใช้กล้องจะทำให้เห็นพยาธิสภาพของโรคต่าง ๆ ได้ นอกจากการวินิจฉัยแล้วการใช้กล้องก็สามารถใช้รักษาโรคได้ในครั้งเดียวกัน

ผ่าตัดผ่านกล้องแบบ 3 มิติ

โรงพยาบาลกรุงเทพได้นำเทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้องแบบ 3 มิติ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ความคมชัด ความลึกเสมือนจริง ซึ่งดีกว่าการใช้กล้องแบบเดิม (2 มิติ) ที่มีใช้อยู่ทั่วไป นอกจากนี้ยังแผลเล็ก เจ็บน้อย และสิ่งที่เป็นข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้องในกรณีที่ต้องผ่าตัดภายหลังส่องกล้องเพื่อวินิจฉัย กล้อง 3 มิติ ช่วยให้การผ่าตัดราบรื่นและลดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด