มาทำความรู้จักโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

2 นาทีในการอ่าน
มาทำความรู้จักโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
โรงพยาบาลกรุงเทพ สนามจันทร์

อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
อาการแบบเฉียบพลัน อาการแน่นหน้าอก เหมือนมีของหนักมาทับ เหมือนช้างเหยียบ หายใจไม่ออก หรือ แน่นเหมือนมีอะไรมารัดรอบตัว มีราวไปกราม ไปไหล่ เหงื่อแตก ชุ่ม เสื้อเปียกอาการเป็นนานเกิน 5 -10  นาที ถ้ามีอาการดังที่กล่าวมาให้รีบโทรหาหน่วยกู้ชีพ 1669 , 1724  แล้วให้แจ้งว่ามีอาการแน่นหน้าอก สงสัยมีอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ

 อาการแบบเรื้อรัง  คือหลอดเลือดหัวใจค่อยๆตีบไปเรื่อยๆ ตีบทีละเล็กละน้อย คือใช้เวลา อาการที่จะมีก็คือ เหนื่อยง่าย เจ็บแน่นหน้าอก เวลาออกแรง เช่นตอนอยู่บ้าน เวลาขึ้นบันได มีอาการเหนื่อย เจ็บแน่นหน้าอก อาการจำเพาะคือออกแรงเดิน หรือทำอะไรรีบๆ ถือของหนักๆเดินเร็วๆแล้วเหนื่อยแน่นหน้าอก ลักษณะคล้ายๆกันคือแน่นเหมือนมีของหนักมาทับ ร้าวมากราม มาไหล่    2 ข้าง หรือ ร้าวมาไหล่ ข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ พักแล้วหาย หายคือพัก 5-10 นาทีหาย แล้วเดินอีก ออกแรงอีกแล้วมีอาการเป็นอีก ก็เป็นอาการหนึ่งของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เริ่มมีอาการ ให้รีบไปตรวจ เพราะมีอาการเตือน สักพัก จะกลายเป็นแบบเฉียบพลัน ถ้าเป็นรุนแรงมากจะหมดสติหัวใจหยุดเต้น ถ้าหมดสติหัวใจหยุดเต้นจะต้องเริ่มเรื่องของการปั๊มหัวใจ


ปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

1.เพศชาย อายุเกิน 45 ปี
2.เพศหญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว
3.เบาหวาน
4.ความดันโลหิตสูง
5.ไขมันในเลือดสูง
6.มีประวัติคนในครอบครัวเป็น
7.สูบบุหรี่
ป้องกันก่อนเกิดได้ด้วย

รู้เร็ว >> ถ้าไม่เป็นโรคแต่มีปัจจัยเสี่ยงก็ควบคุมปัจจัยเสี่ยงนั้น งดหวาน งดมัน งดเค็ม
ตรวจสุขภาพประจำปี >> ถ้าเริ่มมีไขมันสูงก็ต้องมีการปรึกษาแพทย์ ตอนนี้มีการประเมินความเสี่ยงหลากหลายมากขึ้น เช่น ระดับไขมันเท่ากัน เช่น 160 อีกคน 160 แต่ความเสี่ยงส่วนตัวไม่เท่ากัน  บางคนเริ่มยา บางคนแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม บางคนอาจจะต้องทั้งเริ่มยา และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การประเมินโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้องดูความเสี่ยงหลายๆอย่าง การตรวจสุขภาพก็จะมีกระบวนการที่เราจะสามารถประเมินความเสี่ยงให้ได้ ว่าความเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจ 10 ปี ของคุณเท่าไหร่มีความเสี่ยงกี่เปอร์เซนต์ 5% 10% 20 % ถ้าความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมองที่ 10 ปีเกิน 20 % ถือว่าเป็นความเสี่ยงสูง ก็ต้องเริ่มการดูแลรักษาแบบองค์รวมกับผู้เชี่ยวชาญ


ไขมันเท่าไร่ถึงต้องกินยา
แต่ถ้าไปตรวจไขมันแล้ว LDL (ไขมันไม่ดี)เกิน 190 ไม่ต้องประเมินความเสี่ยงอะไร ก็คือต้องกินยา เพราะว่าก็เคยเจอมาแล้วอายุน้อยที่สุดที่เป็น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ/ตัน เฉียบพลันแล้วต้องทำบอลลูนฉุกเฉิน ส่วนตัวเจอตอนอายุ 33 ปี ต้องทำบอลลูน ถ้าใครสูบบุหรี่ก็จะจบลงที่  ต้องมีหลอดเลือดสักส่วนหนึ่งที่ตีบ ไม่หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง ก็หลอดเลือดขาตีบ ถ้าตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่องก็จะดีกับตัวท่านเอง
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้องทำการรักษาอย่างไร ถ้าหมอพบเป็นโรคหัวใจ โดยจะมีการตรวจ ECHO  เดินสายพาน CT Scan สวนหัวใจฉีดสี ทำบอลลูน  หรือถ้าตีบหลายเส้น ทำบอลลูนไม่ได้ก็ต้องผ่าตัดทำบายพาส เป็นลำดับขั้นไป แต่ดูแลรักษาควบคุมปัจจัยเสี่ยงจะดีที่สุด

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
ศูนย์หัวใจและสมอง โทร 034-219600 ต่อ 8321

ข้อมูลสุขภาพ 
โดย นายแพทย์ทินกร สำเร็จ 
อายุรศาสตร์โรคหัวใจ

 

 

สอบถามเพิ่มเติมที่