เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor)
เนื้องอกในสมองเป็นโรคที่พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเอง แต่บางรายพบความผิดปกติจากพันธุกรรม โดยพบเนื้องอกที่เป็นเนื้อธรรมดาได้บ่อยกว่าเนื้องอกที่เป็นเซลล์มะเร็ง ทางการแพทย์จะแบ่งตำแหน่งของเนื้องอกในสมองออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ เนื้องอกที่เกิดขึ้นจากเนื้อเยื่อในกะโหลกศีรษะ และเนื้องอกจากเซลล์มะเร็งที่แพร่กระจายมาจากนอกกะโหลกศีรษะ เช่น แพร่มาจากมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด

สาเหตุของเนื้องอกในสมอง
สาเหตุของเนื้องอกในสมองยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่ทางการแพทย์สันนิษฐานว่าอาจมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
- ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น เคยได้รับการฉายรังสี (รังสีรักษา) ในวัยเด็ก การได้รับสารพิษจากโรงงานผลิตเคมีภัณฑ์ เช่น ยาง หรือโรงกลั่นน้ำมัน
- ปัจจัยทางพันธุกรรม โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมบางโรค เช่น Von Hippel-Lindau Syndrome ก็เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งสมองได้เช่นกัน ทว่าปัจจัยทางพันธุกรรมมักพบได้น้อยมาก หรืออาจกล่าวได้ว่า ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยด้วยโรคมะเร็งสมองก็มีโอกาสป่วยด้วยโรคนี้สูงขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อมีคนในครอบครัวป่วยแล้วญาติพี่น้องจะต้องป่วยเป็นมะเร็งสมองทุกคน
- ปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุที่มากขึ้น ร่วมกับภาวะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบริเวณอวัยวะอื่น ๆ และมะเร็งนั้นแพร่กระจายมายังสมอง หรือภาวะภูมิต้านทานบกพร่อง การติดเชื้อ HIV หรือการได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเนื้องอกในสมอง

อาการของเนื้องอกในสมอง
- อาการปวดหัวเรื้อรัง โดยอาการปวดหัวของผู้ป่วยเนื้องอกในสมองจะมีลักษณะเฉพาะคือ มีอาการปวดหัวหนักมากตอนตื่นนอน พอสาย ๆ อาการปวดจะทุเลาลง หรือมักจะมีอาการปวดหัวมากตอนล้มตัวลงนอน ตอนไอ จาม หรือเบ่งอุจจาระ ที่สำคัญอาการปวดหัวจะรุนแรงมากขึ้นทุกวัน บางคนปวดหัวจนต้องสะดุ้งตื่นตอนดึก หรือปวดหัวมากตลอดเวลา กินยาก็ไม่ช่วย และเป็นมานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนติดต่อกัน ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัว ควรมาตรวจสุขภาพเพื่อรับการวินิจฉัยโดยแพทย์
- อาเจียน ระยะต่อมาผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัวร่วมกับอาการอาเจียนพุ่ง คืออาเจียนโดยไม่มีอาการคลื่นไส้นำมาก่อน
- ตามัว ลานสายตาแคบ ในระยะที่เนื้องอกสมองไปกดทับเส้นประสาทสมองเฉพาะจุด อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการมองเห็นภาพซ้อน ตาพร่ามัว ทัศนียภาพแคบลง มองด้านข้างไม่เห็น ทำให้เดินเซ เดินชนของ
- ชักกระตุก อาจมีอาการชักกระตุก หรือเกร็งเฉพาะที่ ซึ่งอาจเป็นมากถึงขั้นหมดสติได้
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงตั้งแต่ใบหน้า แขน ขา หรือมีอาการชาเฉพาะที่ ร่วมกับอาการสับสน ความจำผิดปกติ
- หมดสติเฉียบพลัน โดยอาจจะเริ่มจากอาการแขน ขา อ่อนแรง พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง หน้าชา ปัสสาวะ อุจจาระเองไม่ได้ และหมดสติในที่สุด
การรักษาโรคเนื้องอกสมอง
1. การผ่าตัด
หากพบว่าเนื้องอกอยู่ในจุดที่ไม่อันตรายต่อความพิการและชีวิตของผู้ป่วย แพทย์มักจะเลือกใช้วิธีผ่าตัดเนื้องอกในสมองออกไปเลย ซึ่งจะหายขาดได้ถ้าไม่เป็นมะเร็ง หรือหากไม่สามารถผ่าตัดเนื้องอกได้ทั้งหมด แพทย์ก็จะทำการตัดเนื้องอกออกบางส่วน (ที่ปลอดภัย) เพื่อลดขนาดของเนื้องอก และใช้วิธีการรักษาอื่นๆ ร่วม
2. การใช้รังสีรักษา
วิธีนี้จะถูกใช้เมื่อเนื้องอกเกิดขึ้นในตำแหน่งที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ หรือผ่าตัดออกได้ไม่หมด ทว่าไม่แนะนำให้ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 3 ขวบ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงในระยะยาวได้
3. การให้ยาเคมีบำบัด
การให้ยาเคมีบำบัดกับผู้ป่วยเป็นเพียงวิธีรักษาที่ใช้เสริมวิธีรักษาหลักเท่านั้น เช่น ผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้การรักษาด้วยการฉายรังสีร่วมกับเคมีบำบัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้ดีมากขึ้น หรือในกรณีที่ผ่าตัดแล้วพบว่าเป็นเนื้อร้าย ก็อาจต้องอาศัยเคมีบำบัดช่วยรักษาเนื้องอกในสมองด้วยอีกทาง ร่วมกับการฉายรังสีในบางกรณี
อย่างไรก็ตาม การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งสมอง เนื้องอกสมอง ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา ซึ่งจะต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น อาการของผู้ป่วย ตำแหน่งของเนื้องอก และขนาดของเนื้องอก
การป้องกันไม่ให้เกิดเนื้องอกสมอง/มะเร็งสมอง
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันโรคมะเร็งสมองหรือเนื้องอกสมองที่ชัดเจน แต่เราก็สามารถดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ที่อาจลุกลามมาเป็นมะเร็งสมองได้ หรือหลีกเลี่ยงการได้รับสารพิษจากแหล่งผลิตเคมีภัณฑ์ โรงกลั่นน้ำมัน เป็นต้น

แหล่งที่มาของภาพ : medthai.com/เนื้องอกในสมอง/
” หากมีอาการปวดหัวรุนแรงมาก ร่วมกับอาการอาเจียนอย่างไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบไปตรวจรักษากับแพทย์โดยด่วน “
ข้อมูลติดต่อ
โทร. 044-015-999 หรือ โทร. 1719
ศูนย์สมองและระบบประสาท เปิดให้บริการ
- วันจันทร์–วันศุกร์ เวลา 08.00-19.00 น.
- วันเสาร์–วันอาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น.
สถานที่ตั้ง ศูนย์สมองและระบบประสาท ชั้น 4 โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา










