
นอกเหนือจากการตรวจโดยแพทย์และทีมดูแลรักษาแล้ว ควรมีการตรวจหาภาวะแทรกซ้อนประจำปี ดังนี้

“อาหารเบาหวาน” ไม่ใช่อาหารที่มีความพิเศษแตกต่างจากอาหารที่เรารับประทานในชีวิตประจำวันแต่อย่างไร ดังนั้น ผู้ที่เป็นเบาหวานสามารถรับประทานอาหารได้เหมือนคนปกติทั่วไป เพียงแต่เพิ่มความระมัดระวังในการเลือกชนิดอาหารที่มีคุณภาพ และควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานให้เหมาะสมมากขึ้นสักหน่อย เพื่อที่จะไม่ให้ได้รับน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายมากจนเกิน เมื่อมาถึงจุดนี้เรามักจะพบเจอประเด็นคำถามเกี่ยวกับกินอย่างไรเมื่อเป็นเบาหวาน มากมายหลายคำถาม วันนี้เรามาดูประเด็น คำถามที่พบได้บ่อยคำถามหนึ่ง คือประเด็นคำถามที่ว่า “อาหารอะไรบ้างที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น” เพื่อเป็นการตอบคลายข้อสงสัยดังกล่าว เรามาดูกันเลยว่ามีอาหารประเภทใดกันบ้าง

โรคเบาหวาน เป็นกลุ่มโรคทางเมตะบอลิซึม ซึ่งก่อให้เกิดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงเป็นเวลานาน เป็นผลมาจากความผิดปกติในการหลั่งอินซูลินหรือความผิดปกติในการออกฤทธิ์ของอินซูลิน

เลือกบริโภคอาหารให้ครบ 5หมู่ โดยคำนึงถึงพลังงานที่ได้จากอาหารโดยประมาณจากคาร์โบไฮเดรต(แป้ง) ประมาณ 55-60%โปรตีน (เนื้อสัตว์) ประมาณ 15-20%ไขมัน ประมาณ 25%

ผู้ป่วยเบาหวานที่รับการรักษาอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี บางท่านรักษาโดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายเท่านั้น ไม่ต้องอาศัยยา ก็สามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี บางท่านก็อาศัยในปริมาณที่มากจึงจะสามารถคุมได้

อาการของโรคเบาหวานมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่ไม่มีอาการเลย (ภัยเงียบ) จนถึงมีอาการผิดปกติเช่น ได้หิวน้ำบ่อยมาก ปัสสาวะบ่อยและปริมาณมาก ปัสสาวะมีมดตอม กินเก่งมากอย่างผิดปกติ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ แผลหายยาก อ่อนเพลียผิดปกติ คันตามตัว เป็นฝีบ่อย ปวดแสบปวดร้อนหรือชาปลายมือปลายเท้า ตามัวลง ปวดขาหรือเป็นตะคริวเมื่อเดินไกลๆ ในผู้หญิงอาจมีตกขาวหรือคันช่องคลอดเรื้อรัง หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ จะทราบว่าเป็นโรคเบาหวานหรือไม่จากการตรวจสุขภาพเท่านั้น ดังนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเบาหวานควรเข้ารับการตรวจคัดกรองหาโรคเบาหวานตั้งแต่ระยะแรกๆ

โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าค่าปกติ ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงหลักๆ 2 อย่างได้แก่ ส่วนแรกคือพันธุกรรม ถ้ามีพ่อแม่ พี่น้องเป็นเบาหวาน ก็จะเพิ่มความเสี่ยงที่คนไข้จะเป็นเบาหวาน และอีกส่วนที่สอง ซึ่งสำคัญกว่ามาก คือวิธีการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายและวิธีการใช้ชีวิต การทานอาหารหวาน ของหวาน อาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลปริมาณมากเกินไป รวมถึงอาหารไขมันสูง การไม่ออกกำลังกาย การใช้ชีวิตและทำงานโดยขยับเคลื่อนไหวร่างกายเพียงเล็กน้อย หรือที่เราเรียกว่า sedentary lifestyle ล้วนส่งเสริมให้เกิดภาวะอ้วน น้ำหนักตัวเกินมาตราฐาน

อาการของโรคเบาหวาน ในที่นี้หมายถึงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือเบาหวานชนิดไม่ต้องพึ่งพาอินซูลิน ที่เป็นชนิดที่พบบ่อยมากที่สุด อาการเหล่านี้อาจพบหรือไม่พบในผู้ป่วยก็ได้ ถ้าพบอาจพบเพียงบางอาการ และมีความรุนแรงแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละคน เนื่องจากเบาหวานชนิดนี้ใช้เวลายาวนาน อาจจะถึงหลายปี ก่อนที่ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการแสดงที่ชัดเจน

โรคเบาหวานแบ่งเป็นชนิดที่พบบ่อย 4 ชนิด ได้แก่เบาหวานชนิดที่ 1 หรือเบาหวานชนิดต้องพึ่งพาอินซูลิน, เบาหวานชนิดที่ 2 หรือเบาหวานชนิดไม่ต้องพึ่งพาอินซูลิน (ในระยะแรก อาจจำเป็น้องใช้อินซูลินในระยะหลัง หรือในสภาวะบางอย่าง), เบาหวานขณะตั้งครรภ์ และเบาหวานชนิดอื่นๆ

นั่นก็คือ การรับประทานอาหารโดยควบคุมชนิดและปริมาณของอาหาร ให้พอดีกับความต้องการของร่างกายโดยไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เพราะการรับประทานอาหารที่มากเกินไปจะทำให้น้ำตาลเพิ่มขึ้นสูงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันหากรับประทานน้อยไป ก็อาจทำให้ระดับน้้าตาลในเลือดต่ำจนเป็นอันตรายได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการเลือกชนิดอาหาร และปริมาณที่เพียงพอเหมาะสม การแลกเปลี่ยนและการทดแทนอาหารเพื่อที่จะสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ แนวทางการเลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

กระท่อมเป็นพืชสมุนไพร ที่มีสารออกฤทธิ์กลุ่ม โอปิออยด์ (opioids) ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับยาเฟนทานิล (Fentanyl) ยามอร์ฟีน (Morphine) ยาเมทาโดน (Methadone) และยาทรามาดอล (Tramadol) ซึ่งใช้เป็นยาในการระงับปวดเป็นหลัก ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันว่า กระท่อมมีประโยชน์ในการรักษาเบาหวานในมนุษย์แต่อย่างใด แม้นจะมีการศึกษาเล็กๆในสัตว์ทดลองบ้าง เช่นในหนูว่ากระท่อมอาจจะช่วยให้มีการนำเอาน้ำตาลไปใช้ในเซลล์ของหนูมากขึ้น แต่การศึกษาเหล่านี้ยังเป็นเพียงในระดับสัตว์ทดลองเท่านั้น ยังไม่มีการศึกษาขนาดใหญ่ในมนุษย์ที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพของกระท่อมในการรักษาเบาหวาน นอกจากนี้แล้วยังมีหลักฐานยืนัยนว่าการใช้กระท่อม นำไปสู่ภาวะตับวาย ไตวาย หัวใจเต้นผิดจังวหะ ชักหมดสติได้ด้วย โดยมีรายงานการเสียชีวิตจากกระท่อมอย่างน้อย 38 รายในสหรัฐอเมิรกาจนถึงปี 2018 ปัจจุบันองค์การอาหารและยาสหรัฐ (Food and Drug Administration) ยังไม่อนุมัติให้ใช้กระท่อมในการรักษาโรคใดๆ รวมถึงโรคเบาหวาน

เบาหวานเป็นโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ผู้ป่วยเบาหวานหลายท่านไม่สามารถคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ มักมีค่าน้ำตาลในเลือดแกว่งขึ้นลง บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยเบาหวาน เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ มักมีอาการเป็นลม หมดสติ ซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เสี่ยงต่อภาวะโรคหัวใจ ตัวช่วยใหม่ สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน