ถ้าคุณกำลังมีปัญหาฟันหลุด ฟันโยก หรือสูญเสียฟันไปเกือบทั้งปาก แล้วอยากกลับมามีรอยยิ้มสวยๆ อีกครั้งโดยไม่ต้องใส่ฟันปลอมที่หลวมไปมา “รากฟันเทียม All-on-4” อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา
ทพญ. พีรานุช ประหยัดทรัพย์ (ท. 7379) ผู้อำนวยการแผนกทันตกรรม ทันตแพทย์เฉพาะทางสาขาทันตกรรมประดิษฐ์ (บูรณะช่องปากและใบหน้า) โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน กล่าวว่า เทคโนโลยีทันตกรรมในปัจจุบันได้พัฒนาไปไกลมาก จนทำให้เราสามารถฟื้นฟูฟันทั้งปากได้ด้วยรากฟันเทียมเพียง 4 ตัวต่อขากรรไกร (ในบางกรณีอาจใช้ 5-6 ตัว ขึ้นอยู่กับสภาพกระดูกของแต่ละคน) เพื่อรองรับฟันปลอมแบบติดแน่น ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติ ทั้งสวยงาม แข็งแรง และมั่นใจเวลาเคี้ยวหรือพูด

All-on-4 คืออะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยม
All-on-4 เป็นเทคนิคที่ใช้รากฟันเทียมอย่างน้อย 4 จุดยึดในการรองรับฟันปลอมทั้งปาก เพื่อช่วยกระจายน้ำหนักและรองรับแรงเคี้ยวได้อย่างมั่นคง เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก หรือมีฟันเหลือน้อยและไม่อยากใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ ผู้ป่วยสามารถถอนฟันและใส่รากเทียมได้ในวันเดียวกัน และได้ฟันใหม่ที่มีจำนวนครบ และมีการออกแบบรอยยิ้ม เรียงตัวสวยงามให้เข้ากับบุคลิกแต่ละคน ได้ภายใน 14 วันหลังการฝังรากเทียม ทำให้กลับมายิ้มและใช้ชีวิตประจำวันได้แทบจะทันที
ขั้นตอนการทำ All-on-4
- 1) ตรวจประเมินสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด : ทันตแพทย์จะเริ่มจากการตรวจฟันและขากรรไกร ประเมินใบหน้าและรอยยิ้ม ร่วมกับการเอกซเรย์หรือสแกน 3 มิติ (CT Scan) เพื่อประเมินโครงสร้างกระดูกและวางแผนตำแหน่งฝังรากเทียม
- 2) ฝังรากฟันเทียม : ภายใต้ยาชาเฉพาะที่ รากฟันเทียมอย่างน้อย 4-6 ตัว (all on 5-6) จะถูกฝังลงในกระดูกอย่างมั่นคงและแม่นยำ เพื่อหวังผลให้รากเทียมแน่นเพียงพอที่จะต่อฟันปลอมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
- 3) การสร้างฟันปลอมแบบติดแน่น : หลังจากฝังรากฟันเทียมเรียบร้อย จะเริ่มต้นการสร้างฟันปลอมชั่วคราวได้ทันที โดยมีขั้นตอนการประเมินรูปหน้าและรอยยิ้ม รวมถึงการสบฟัน เพื่อให้มั่นใจว่าฟันปลอมติดแน่นชั่วคราวที่ผู้ป่วยจะใช้ในเบื้องต้น มีความสวยงามและมอบความมั่นใจให้ผู้ป่วยได้ตั้งแต่วันแรกที่ใส่ โดยวัสดุจะเป็นอะคริลิกกลึงชนิดเสริมความแข็งแรงพิเศษเพื่อป้องกันการแตกหัก และเปลี่ยนเป็นฟันปลอมติดแน่นถาวรที่เป็นโครงโลหะร่วมกับเซอร์โคเนียซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ทำครอบฟัน เมื่อกระดูกยึดตัวดีแล้วในช่วงประมาณ 4-6 เดือน โดยเซอร์โคเนียจะเป็นวัสดุที่ให้ความสวยงามเหมือนฟันธรรมชาติและแข็งแรงอย่างมากไม่แตกหักง่ายเมื่อใช้งาน

ข้อดีของรากฟันเทียม All-on-4
- ใช้รากเทียมเพียงไม่กี่ตัว แต่รองรับฟันได้ทั้งปาก
- ใส่ฟันได้อย่างรวดเร็วหลังฝังรากเทียม
- ลดขั้นตอนการปลูกกระดูกที่ต้องรอระยะเวลาการรักษานานหลายเดือน
- แข็งแรง ไม่โยก ไม่หลวมเหมือนฟันปลอมถอดได้
- ดูเป็นธรรมชาติ พูดและเคี้ยวได้อย่างมั่นใจ
- ช่วยรักษารูปหน้า ลดการละลายของกระดูกขากรรไกร
- หากดูแลดี สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปี
All-on-4 เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก หรือมีฟันเหลือน้อย
- ผู้ที่ไม่ต้องการใส่ฟันปลอมแบบถอดเข้าออก
- ผู้ที่มีปัญหาฟันโยก ฟันผุรุนแรง ต้องถอนทั้งปาก
- ผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรจำกัดแต่ไม่อยากปลูกกระดูกเพิ่มเพื่อการฝังรากเทียม

การดูแลหลังทำ All-on-4
รากฟันเทียม All-on-4 เป็นฟันแบบติดแน่น จึงไม่ต้องถอดออกมาล้าง เพียงแปรงฟันตามปกติ ใช้ไหมขัดฟันชนิดพิเศษ (Superfloss) และเครื่องฉีดน้ำทำความสะอาดช่องฟันทุกวัน เพื่อป้องกันการอักเสบของเหงือก รวมถึงเข้าพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็คและทำความสะอาดอย่างมืออาชีพ
“สำหรับใครที่อยากกลับมามีรอยยิ้มมั่นใจแบบฟันธรรมชาติ “All-on-4” คือหนึ่งในทางเลือกที่ทันสมัย ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว คงทนยาวนาน เหมาะทั้งกับผู้ที่อยากฟื้นฟู ดูแลสุขภาพช่องปากในระยะยาว สร้างความมั่นใจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ท่านสามารถมาปรึกษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ที่พร้อมด้วยอุปกรณ์ เทคโนโลยี พร้อมรับคำแนะนำและการดูแลอย่างใกล้ชิดเฉพาะบุคคล” ทพญ. พีรานุช กล่าวทิ้งท้าย

* ความเหมาะสมของการทำรากฟันเทียม All-on-4 จะพิจารณาจากการประเมินสภาพช่องปากและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของผู้ป่วยแต่ละรายอย่างละเอียดโดยทันตแพทย์ผู้ชำนาญการ







