ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคุณแม่ที่ มีเฮ
ได้ต้อนรับการมาถึงของเจ้าตัวน้อยในปี “ฉลูทอง” นี้
แต่เชื่อแน่ว่า นอกจากความตื่นเต้นดีใจตามปกติของคนในครอบครัวแล้ว
คุณพ่อคุณแม่จำนวนไม่น้อยที่มีความกังวลเรื่อง ความปลอดภัยในการตั้งครรภ์
โดยเฉพาะในยุคที่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไปทั่วประเทศอย่างในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเบาใจได้ว่ายังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่า ผู้หญิงที่ติดเชื้อ COVID-19 ในขณะตั้งครรภ์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรหรือเสียชีวิต เราพบเพียงว่าผู้หญิงที่ติดเชื้อในขณะตั้งครรภ์ อาจมีอาการรุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะหากเกิดการติดเชื้อในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งอาการรุนแรงที่ว่าได้แก่ เพิ่มโอกาสการเข้ารับการรักษาในห้อง ICU เพิ่มความเสี่ยงในการใช้เครื่องช่วยหายใจและการคลอดก่อนกำหนด เป็นต้น
การดูแลตนเองสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ในยุค COVID-19
- รักษาระยะห่างทางสังคม อย่างน้อย 2 เมตร แม้แต่กับคนในครอบครัว
- สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่ (อย่างน้อย 20 วินาที) หรือใช้แอลกอฮอล์ 70%
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ปาก จมูก
- รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ปรุงสุก สะอาด ใช้ช้อนกลางของตนเอง
- ห้ามใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ช้อน-ส้อม
- หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยงหรือแออัด
- พักผ่อนให้เพียงพอ 8–10 ชั่วโมงต่อวัน
- ฟังเพลง หรือดูสื่อบันเทิงเพื่อผ่อนคลายจิตใจ
- หากทำงาน ควร Work From Home หรือระมัดระวังเป็นพิเศษขณะไปสถานที่ทำงาน
- มาฝากครรภ์ตามนัด และรับประทานอาหารบำรุงครรภ์สม่ำเสมอ
คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19!
ตามคำแนะนำของ ACOG และการประชุมของ กรมอนามัย ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ พร้อมด้วยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อ สรุปว่า หญิงตั้งครรภ์ทุกคนควรได้รับวัคซีน COVID-19 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ทำงานในพื้นที่ระบาดสูง หญิงตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัว (เบาหวาน ความดันสูง โรคปอด ฯลฯ) แนะนำฉีดหลังอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป (Sinovac แนะนำก่อน) แม้ข้อมูลยังจำกัด ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ก่อนตัดสินใจ และหากมีอาการสงสัย COVID-19 ให้พบแพทย์ทันที
พญ. นภัทร์ธมณฑ์ บุญมา
แผนกสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่
โทร. 052–089–888 หรือ 1719



