กรดไหลย้อนที่คิดว่าใช่ แท้จริงอาจเป็นไส้เลื่อนกะบังลม

4 นาทีในการอ่าน
กรดไหลย้อนที่คิดว่าใช่ แท้จริงอาจเป็นไส้เลื่อนกะบังลม
โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

เมื่อมีอาการแสบร้อนที่หน้าอกหลายคนมักคิดถึงอาการของโรคกรดไหลย้อน (GERD) ทั้งที่ความจริงแล้วยังมีอีกโรคหนึ่งที่มีอาการใกล้เคียงกัน มักพบร่วมกัน แต่หลายคนอาจมองข้ามไป นั่นก็คือ ไส้เลื่อนกะบังลม โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาโรคอ้วน สูบบุหรี่ การมีอายุที่มากขึ้น หรือเป็นโรคกรดไหลย้อนที่รักษาไม่หาย หากไม่รีบรักษาอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น กระเพาะบิดพัน (Gastric Volvulus) และอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการดังกล่าว การพบแพทย์โดยเร็วเพื่อตรวจวินิจฉัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้รับมือกับไส้เลื่อนกะบังลม (Hiatal Hernia) ได้ทันท่วงที 

 

รู้จักไส้เลื่อนกะบังลม (Hiatal Hernia)

กะบังลมเป็นอวัยวะที่กั้นอวัยวะภายในช่องอกและช่องท้องออกจากกัน ซึ่งโดยปกติจะมีช่องเล็ก ๆ ให้หลอดอาหารลอดผ่านจากทรวงอกลงสู่กระเพาะในช่องท้องเพื่อย่อยอาหาร นอกจากนี้กะบังลมยังมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหารที่อยู่บริเวณทรวงอกได้ การเกิดไส้เลื่อนกะบังลม (Hiatal Hernia) เป็นภาวะที่ช่องดังกล่าวมีขนาดใหญ่ขึ้น มีผลทำให้อวัยวะในช่องท้องอย่างกระเพาะอาหารส่วนบนสามารถเลื่อนขึ้นมาอยู่บริเวณทรวงอกผ่านทางช่องโหว่ของกะบังลม เมื่อเป็นไส้เลื่อนกะบังลมจึงส่งผลให้มีอาการแสบร้อนกลางอกจากกรดไหลย้อน และอาจร้ายแรงถึงขั้นอวัยวะที่เข้าไปในทรวงอกเกิดขาดเลือด อุดตัน และมีเน่าแตกทะลุได้

ไส้เลื่อน, ไส้เลื่อนกระบังลม, กรดไหลย้อน

ปัจจัยเสี่ยงไส้เลื่อนกะบังลม

สาเหตุของไส้เลื่อนกะบังลมนั้นไม่ปรากฏชัดเจน แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดไส้เลื่อนกะบังลม ได้แก่ ภาวะที่มีการเพิ่มความดันในช่องท้องมากขึ้นหรือภาวะที่หูรูดอ่อนแอลง ได้แก่

  • บาดเจ็บบริเวณกะบังลม เช่น อุบัติเหตุ
  • ภาวะตั้งครรภ์ 
  • อ้วน น้ำหนักเกินเกณฑ์ จะพบไส้เลื่อนมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า 
  • สูบบุหรี่
  • ไอเรื้อรัง 
  • การเบ่งขณะขับถ่าย
  • อายุเกิน 50 ปี เนื่องจากความเสื่อมตามวัย

อาการไส้เลื่อนกะบังลม

อาการไส้เลื่อนกะบังลมระยะแรก อาจจะไม่แสดงอาการ หรือตรวจพบจากการตรวจสุขภาพ  หากไม่แสดงอาการที่ส่งผลกระทบกับร่างกาย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยส่วนมากจะมาพบแพทย์ด้วยอาการของกรดไหลย้อน โดยอาการที่พบบ่อย คือ

  • แสบร้อนที่หน้าอก อาการจะรุนแรงเมื่อนอน ก้มตัว หรืองอตัว
  • เรอกินเปรี้ยวในลำคอ
  • สะอึกบ่อยหลังทานอาหาร
  • เจ็บคอ

บางครั้งอาจจะมาด้วยอาการที่ใกล้เคียงกับโรคอื่นได้ เช่น

  • หอบหืด
  • ไอเรื้อรัง
  • กลืนลำบาก
  • เจ็บหน้าอก

ซึ่งจำเป็นต้องตรวจอย่างละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทางเพื่อการวินิจฉัยแยกโรคได้อย่างถูกต้อง

ตรวจเช็กไส้เลื่อนกะบังลม

ผู้ป่วยมักมีประวัติอาการคล้ายกรดไหลย้อน หลายคนกินยารักษากรดไหลย้อนแล้วอาการไม่ทุเลา และมักต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น

  • การส่องกล้องทางเดินอาหาร (Endoscopy)
  • การกลืนแป้งและ X – ray (Upper GI Study) เพื่อดูตำแหน่งและการทำงานของหลอดอาหาร
  • การทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Abdominal Scan)
  • การดูการหดรัดตัวกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหาร (Esophageal Manometry)

รักษาไส้เลื่อนกะบังลม

การรักษาไส้เลื่อนกะบังลมในระยะแรกที่อาการไส้เลื่อนเป็นไม่มาก อาจรักษาอาการของกรดไหลย้อน ด้วยการทานยาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกับการติดตามอาการจากแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด ได้แก่

1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น

  • 1.1 การรับประทานอาหาร 
    • ทานอาหารมื้อละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ และเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
    • หลีกเลี่ยงการทานอาหารแล้วนอนทันที ควรรอประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
    • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน บุหรี่ หมากฝรั่ง
    • หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ของทอด รสเผ็ด รสเปรี้ยว
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ง่าย เช่น เนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ ๆ ถั่ว ช็อกโกแลต เป็นต้น
  • 1.2 ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • 1.3 พฤติกรรมการนอน
    • ทานอาหารเสร็จทิ้งระยะเวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
    • นอนยกหัวไหล่สูงหรือนอนตะแคงซ้าย                

2. การรับประทานยา ได้แก่ ยาลดกรด ยากระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและหูรูดหลอดอาหาร เป็นต้น

3. การผ่าตัดไส้เลื่อนกะบังลม ในกรณีที่การรักษาเบื้องต้นดังกล่าวไม่ดีขึ้น หรือเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้ จำเป็นต้องผ่าตัดรักษา ในอดีตแพทย์จะทำการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ซึ่งวิธีนี้ผู้ป่วยจะมีแผลยาวกลางหน้าท้องขนาดใหญ่และเจ็บแผลหลังผ่าตัด แต่ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery : MIS) เข้ามามีบทบาทในการผ่าตัด โดยเข้าไปเย็บซ่อมช่องบริเวณกะบังลมให้แคบลงและอาจเย็บกระเพาะอาหารเพื่อลดกรดไหลย้อนร่วมด้วย (Fundoplication) ด้วยการผ่าตัดวิธีนี้รอยแผลหลังผ่าตัดจะมีขนาดเล็ก 5 – 10 มิลลิเมตร ผู้ป่วยจึงเจ็บปวดน้อยลงและสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ลดอัตราการติดเชื้อ และในรายที่ช่องไส้เลื่อนมีขนาดใหญ่ แพทย์จะใช้ตาข่ายชนิดพิเศษเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อที่ทำให้ไส้เลื่อนเคลื่อนที่ออกมาอีกด้วย ซึ่งช่วยลดอัตราการกลับมาเป็นไส้เลื่อนซ้ำได้ 

ผ่าตัดผ่านกล้องรักษาไส้เลื่อนกะบังลม

การผ่าตัดไส้เลื่อนกะบังลมผ่านกล้องส่องผนังหน้าท้องจำเป็นจะต้องใช้ทีมศัลยแพทย์ที่มีความชำนาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้อง เนื่องจากบริเวณนี้อยู่ใกล้กับอวัยวะสำคัญ ได้แก่ เส้นเลือดใหญ่และเส้นประสาทขนาดเล็กจำนวนมาก แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน ซึ่งใช้กล้องความชัดระดับเทคโนโลยี 4K Ultra High Definition ช่วยให้ศัลยแพทย์มองเห็นอวัยวะต่าง ๆ ภายในช่องท้อง เส้นเลือด และเส้นประสาทขณะเลาะพังผืดได้ชัดเจน ทำให้การผ่าตัดแก้ไขมีความถูกต้องชัดเจนยิ่งขึ้น ลดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย เสียเลือดน้อย ผู้ป่วยกลับมาทำกิจวัตรประจำวันได้เร็ว 

 

เพราะไส้เลื่อนกะบังลมเป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่หากเป็นโรคนี้อาจส่งผลกระทบกับหลอดอาหารจากภาวะกรดไหลย้อน ไม่ว่าจะเป็นแผลที่หลอดอาหาร หลอดอาหารตีบแคบ หลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง และอาจร้ายแรงถึงขั้นมะเร็งหลอดอาหารได้ การสังเกตอาการกรดไหลย้อนที่เกิดขึ้น รวมทั้งอาการผิดปกติต่าง ๆ แล้วรีบพบแพทย์ผู้ชำนาญการทันทีจะช่วยให้ตรวจเช็กสุขภาพทันเวลา ทำการรักษาได้โดยเร็ว กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง


References

  • Guidelines for the Management of Hiatal Hernia
    sages.org/publications/guidelines/guidelines-for-the-management-of-hiatal-hernia
  • GERD: Presence and Size of Hiatal Hernia Influence Clinical Presentation, Esophageal Function, Reflux Profile, and Degree of Mucosal Injury. Am Surg. 2018 Jun 1;84(6):978-982.
  • Effect of hiatal hernia on proximal oesophageal acid clearance in gastro-oesophageal reflux disease patients. Aliment Pharmacol Ther. 2006 Mar 15;23(6):751-7.
  • Esophageal hiatal hernia: risk, diagnosis and management. Expert Rev Gastroenterol Hepatol. 2018 Apr;12(4):319-329.
  • Modern diagnosis and treatment of hiatal hernias. Langenbecks Arch Surg. 2017 Dec;402(8):1145-1151.

ข้อมูลโดย

Doctor Image

นพ. ชนินทร์ ปั้นดี

ศัลยศาสตร์

นพ. ชนินทร์ ปั้นดี

ศัลยศาสตร์

Doctor profileDoctor profile
Doctor Image

ผศ. นพ. วิศิษฏ์ เกษตรเสริมวิริยะ

ศัลยศาสตร์

ผศ. นพ. วิศิษฏ์ เกษตรเสริมวิริยะ

ศัลยศาสตร์

Doctor profileDoctor profile

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์ศัลยกรรม

ชั้น 1 อาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพ

ทุกวัน เวลา 08.00 - 20.00 น.