นิ่วในถุงน้ำดี - อาการ การป้องกัน การรักษา

6 นาทีในการอ่าน
นิ่วในถุงน้ำดี - อาการ การป้องกัน การรักษา
โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

โรคนิ่วในถุงน้ำดีสามารถพบได้ตั้งแต่อายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมที่ชอบรับประทานของมัน ของหวาน ของทอด มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หากไม่รีบรักษาอาจพบภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้ เพราะฉะนั้นการรู้เท่าทันโรคนิ่วในถุงน้ำดีเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย

 

หน้าที่ของถุงน้ำดีคืออะไร

ถุงน้ำดี (Gallbladder) มีหน้าที่ในการกักเก็บน้ำดีที่สร้างจากตับเพื่อให้พร้อมสำหรับการย่อยไขมัน เมื่อสารในน้ำดีเสียสมดุล ทำให้เกิดการตกตะกอนกลายเป็นนิ่ว

โรคนิ่วในถุงน้ำดีคืออะไร

นิ่วในถุงน้ำดี (Gall Stone) เกิดจากการตกผลึกของแคลเซียมหรือหินปูน คอเลสเตอรอล และบิลิรูบินในน้ำดี มีลักษณะเป็นก้อน อาจเป็นก้อนเดียวหรือก้อนเล็ก ๆ หลายก้อน โดยมีสาเหตุจากทางเดินน้ำดีติดเชื้อและส่วนประกอบคอเลสเตอรอลและบิลิรูบินในน้ำดีขาดสมดุล ที่พบบ่อยที่สุดเกิดจากคอเลสเตอรอล แสดงถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีผลต่อนิ่วถุงน้ำดีโดยตรง

ลักษณะของนิ่วในถุงน้ำดีเป็นอย่างไร

ลักษณะนิ่วในถุงน้ำดีมี 3 ประเภท ได้แก่

  1. นิ่วจากคอเลสเตอรอล (Cholesterol Stones) อาจเป็นสีเหลือง ขาว เขียวเกิดจากการตกตะกอนไขมัน เนื่องจากคอเลสเตอรอลเพิ่มมากขึ้นในถุงน้ำดี 
  2. นิ่วจากเม็ดสี (Pigment Stones) อาจเป็นสีคล้ำดำ เกิดจากความผิดปกติของเลือด โลหิตจาง และตับแข็ง
  3. นิ่วโคลน (Mixed Gallstones) มีลักษณะคล้ายโคลน เหนียว หนืด เกิดจากการติดเชื้อใกล้ตับ ท่อน้ำดี และตับอ่อน

นิ่วในถุงน้ำดี ท้องอืดท้องเฟ้ออาจอันตรายกว่าที่คิด

นิ่วในถุงน้ำดีอาการเป็นอย่างไร

นิ่วในถุงน้ำดีส่วนมากไม่แสดงอาการ มักตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจอัลตราซาวนด์ แต่หากรุนแรงอาการที่พบมักเกิดหลังรับประทานอาหารมื้อเย็นหรือช่วงกลางคืน ซึ่งควรต้องพบแพทย์โดยเร็ว ได้แก่

  • ท้องอืด
  • แน่นท้อง อาหารไม่ย่อยหลังรับประทานอาหารไขมันสูง เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง
  • ปวดใต้ลิ้นปี่ ชายโครงด้านขวา
  • ปวดร้าวที่ไหล่ หลังขวา 
  • คลื่นไส้อาเจียน (ถุงน้ำดีติดเชื้อ) 
  • มีไข้ หนาวสั่น 
  • ดีซ่าน ตัวและตาเหลือง (เมื่อก้อนนิ่วอุดในท่อน้ำดี)
  • ปัสสาวะสีเข้ม (เมื่อก้อนนิ่วอุดในท่อน้ำดี)
  • อุจจาระสีขาว (เมื่อก้อนนิ่วอุดในท่อน้ำดี)
  • หากก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงมะเร็งถุงน้ำดีได้

กลุ่มเสี่ยงนิ่วในถุงน้ำดี

  • อายุและเพศ มักพบในผู้หญิงอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ผู้สูงวัยอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
  • น้ำหนักเกินเกณฑ์ ผู้ที่มีภาวะอ้วน ถุงน้ำดีสลายไขมันไม่ทันและบีบตัวลดลง 
  • คอเลสเตอรอลสูง เมื่อคอเลสเตอรอลในน้ำดีสูงขึ้น ถุงน้ำดีบีบตัวลดลง
  • ฮอร์โมน การรับประทานยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนจากภาวะหมดประจำเดือน
  • โรคเบาหวาน ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้น ถุงน้ำดีบีบตัวน้อยลงจากการที่น้ำตาลในเลือดสูง
  • โรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมีย เม็ดเลือดแดงแตกบ่อย สารบิลิรูบินในน้ำดีสูงขึ้น ตกตะกอนเป็นนิ่ว
  • ตั้งครรภ์หลายครั้ง ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเพิ่มสูงขึ้น เพิ่มคอเลสเตอรอลในน้ำดี
  • ลดน้ำหนักเร็วเกินไป ผู้ที่ทำ IF ผู้ที่ถือศีลอด ระดับคอเลสเตอรอลในน้ำดีเข้มข้นสูงขึ้น
  • ยาลดไขมันในเลือดบางชนิด อาจส่งผลให้คอเลสเตอรอลในน้ำดีสูง
  • พันธุกรรม มีประวัติคนในครอบครัวเป็นนิ่วในถุงน้ำดี

นิ่วในถุงน้ำดี ท้องอืดท้องเฟ้ออาจอันตรายกว่าที่คิด

ตรวจวินิจฉัยนิ่วในถุงน้ำดีอย่างไร

การตรวจวินิจฉัยนิ่วในถุงน้ำดีทำได้โดยการอัลตราซาวนด์ช่องท้องส่วนบน (Ultrasound Upper Abdomen) เพื่อให้เห็นรายละเอียดของก้อนนิ่วในถุงน้ำดีชัดเจน ซึ่งก่อนตรวจต้องงดอาหารและเครื่องดื่มที่มีไขมันทุกชนิด ประมาณ 4 – 6 ชั่วโมงก่อนตรวจ แต่ยังคงดื่มน้ำเปล่าได้

รักษานิ่วในถุงน้ำดีอย่างไร

นิ่วในถุงน้ำดีมีวิธีการรักษาหลัก คือการผ่าตัดถุงน้ำดีออกพร้อมนิ่ว เพราะแม้ไม่มีถุงน้ำดีก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ โดยปัจจุบันการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีมี  3 แบบ ได้แก่

  1. การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic Surgery) แพทย์จะทำการเจาะรูขนาดเล็กบริเวณหน้าท้องด้วยเครื่องมือเฉพาะ จากนั้นจะตัดขั้วและเลาะถุงน้ำดีให้หลุดออก วิธีนี้ช่วยให้แผลมีขนาดเล็ก เจ็บน้อย ลดโอกาสการติดเชื้อ ผู้ป่วยฟื้นตัวไว
  2. การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง (Open Cholecystectomy) แพทย์จะทำการผ่าเปิดช่องท้องบริเวณชายโครงขวา วิธีนี้มักใช้รักษาผู้ป่วยกรณีที่มีการอักเสบรุนแรงและถุงน้ำดีแตกทะลุในช่องท้อง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาพังผืดจำนวนมากจนไม่สามารถผ่าตัดผ่านกล้องได้ 
  3. การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (da Vinci Xi) แพทย์จะควบคุมแขนกลที่มีเครื่องมือผ่าตัดและกล้องส่องอวัยวะภายในความละเอียดสูงด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าไปผ่าตัดในตำแหน่งที่กำหนด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผ่าตัด แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว ลดระยะเวลานอนโรงพยาบาล

เตรียมตัวก่อนผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีอย่างไร

  • งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
  • พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ 6 – 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
  • หากมีโรคประจำตัวต้องแจ้งแพทย์เพื่อให้แพทย์แนะนำการงดหรือรับประทานยาอย่างเหมาะสม และควรนำยาโรคประจำตัวติดตัวมาด้วย 
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • กรณีที่ผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 20 ปีต้องมีผู้ปกครองมาด้วย

ดูแลหลังผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีอย่างไร

การดูแลตนเองหลังผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ ในช่วงพักฟื้นที่โรงพยาบาลควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และสังเกตความผิดปกติหลังผ่าตัด หากมีอาการปวด บวม แดงบริเวณแผล หรือมีอาการปวดท้องมาก มีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลืองให้แจ้งแพทย์ทันที และเมื่อกลับบ้านควรลุกเดินต่อเนื่อง รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอ ไม่เบ่งขณะขับถ่าย ห้ามยกของหนักหรือออกกำลังกาย 6 สัปดาห์หลังผ่าตัด และมาพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง

นิ่วในถุงน้ำดี ท้องอืดท้องเฟ้ออาจอันตรายกว่าที่คิด

ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีอย่างไร

  • เลี่ยงของมัน ของทอด ของหวาน อาหารแปรรูป อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารปิ้งย่าง แอลกอฮอล์
  • ควบคุมน้ำหนักอย่าให้เกินเกณฑ์ แต่อย่าลดน้ำหนักเร็วเกินไป ควรคุมอาหารร่วมกับออกกำลังกาย
  • ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดและระดับไขมันอย่างคอเลสเตอรอลเป็นประจำ 
  • ระวังไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน 
  • หากต้องทานยาคุมกำเนิด ยาลดคอเลสเตอรอล ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีและอัลตราซาวนด์ช่องท้องตามคำแนะนำของแพทย์
  • หมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย หากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะอาจรุนแรงถึงขั้นถุงน้ำดีเน่า ถุงน้ำดีแตกจนติดเชื้อในกระแสเลือด หรือมะเร็งถุงน้ำดีในอนาคต

คำถามที่พบบ่อย

ตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดีแต่ไม่มีอาการจำเป็นต้องรักษาไหม

นิ่วในถุงน้ำดีไม่จำเป็นต้องรักษาเสมอไป หากตรวจพบแล้วไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ไม่จำเป็นต้องรักษาหรือติดตาม เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้มีโอกาสมีอาการเพียง 1% – 2% ต่อปี นอกจากนี้แพทย์ยังแนะนำให้ทำการรักษาในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการบางรายที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งถุงน้ำดี เช่น พบนิ่วขนาดใหญ่ พบนิ่วร่วมกับติ่งเนื้อในถุงน้ำดี เป็นต้น 

อาการของนิ่วในถุงน้ำดีดีขึ้นแล้วยังต้องรักษาไหม

ผู้ป่วยที่มีอาการจากนิ่วในถุงน้ำดี แม้ว่าอาการจะดีขึ้นเอง แต่มีโอกาสเป็นซ้ำได้บ่อยถึง 15% – 20% แพทย์จึงมักแนะนำให้รักษาในผู้ป่วยที่มีอาการแล้วทุกราย

นิ่วในถุงน้ำดีหายเองได้ไหม

นิ่วในถุงน้ำดีไม่สามารถหายได้เอง ความเชื่อที่ว่านิ่วจะสลายไปเองหรือหลุดเองได้นั้นไม่จริง ยิ่งปล่อยไว้นานไม่รีบรักษา นอกจากความรุนแรงจะเพิ่มขึ้น ยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา รวมถึงการกินยาสลายนิ่วหรือคลื่นเสียงสลายนิ่วก็ไม่สามารถรักษานิ่วในถุงน้ำดีได้ เพราะเป็นการรักษานิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมีสาเหตุและการรักษาแตกต่างกับนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งผู้ป่วยมักสับสนและมีความเข้าใจผิดระหว่างสองภาวะนี้ สำหรับนิ่วในถุงน้ำดีมีวิธีการรักษาคือการผ่าตัดเพื่อให้หายขาดจากโรค

กินยาสลายนิ่วในถุงน้ำดีได้ไหม

การรักษานิ่วในถุงน้ำดีโดยการรับประทานยาและไม่ผ่าตัดยังไม่เป็นที่แนะนำในปัจจุบัน เนื่องจากได้ผลไม่ดีเมื่อเทียบกับการผ่าตัด ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งที่รับประทานยาพบว่านิ่วไม่หายไป และเกือบ 80% ของผู้ป่วยที่ไม่ผ่าตัดมักมีอาการจนต้องเข้ารับการผ่าตัดภายใน 2 ปี

ทำไมนิ่วถุงน้ำดีพบมากในผู้หญิงวัย 40+

ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีส่วนทำให้คอเลสเตอรอลในน้ำดีสูงขึ้น ดังนั้นหากมีไขมันในเลือดสูง ทานยาคุมกำเนิด ทานฮอร์โมนจากภาวะหมดประจำเดือน มีบุตรหลายคน เป็นโรคเบาหวานหรือโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ล้วนเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งอาการนิ่วในถุงน้ำดีในผู้หญิงมักมีอาการปวดท้องจุกแน่นนานหลายชั่วโมงแล้วไม่หาย

ผู้สูงอายุมากกว่า 60 กลุ่มไหนเสี่ยงนิ่วในถุงน้ำดี

ผู้สูงวัยที่มีคอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคไต โรคธาลัสซีเมีย หากมีอาการปวดท้องเป็นพัก ๆ แล้วไม่หาย ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็ก หากพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดเพื่อให้หายขาด เว้นแต่ในกรณีที่ร่างกายผู้ป่วยไม่พร้อมอาจต้องเริ่มจากการรักษาตามอาการ จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

หลังผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีการย่อยอาหารจะเป็นปกติหรือไม่

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักกังวลเกี่ยวกับการย่อยอาหาร ซึ่งไม่ต้องกังวลเพราะถุงน้ำดีเป็นเพียงที่เก็บพักน้ำดี ไม่ได้เป็นที่ผลิตน้ำดีแต่อย่างใด หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะมีน้ำดีที่ผลิตจากตับเพื่อช่วยย่อยอาหารตามปกติ

โรงพยาบาลที่ชำนาญการรักษานิ่วในถุงน้ำดี

ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ พร้อมให้การดูแลรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มากด้วยประสบการณ์และทีมสหสาขาที่พร้อมดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี เพื่อให้ผู้ป่วยสบายใจในทุกการผ่าตัด และกลับไปใช้ชีวิตอย่างมั่นใจในทุกวัน

แพทย์ที่ชำนาญการรักษานิ่วในถุงน้ำดี

ผศ.นพ.สุปรีชา อัสวกาญจน์ ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการผ่าตัดช่องท้อง โรคตับ ตับอ่อน และทางเดินน้ำดี ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ

ข้อมูลโดย

Doctor Image

ผศ. นพ. สุปรีชา อัสวกาญจน์

ศัลยศาสตร์

ผศ. นพ. สุปรีชา อัสวกาญจน์

ศัลยศาสตร์

Doctor profileDoctor profile

สอบถามเพิ่มเติมที่

ศูนย์ศัลยกรรม

ชั้น 1 อาคาร D โรงพยาบาลกรุงเทพ

ทุกวัน เวลา 08.00 - 20.00 น.