EMPTY NEST SYNDROME ซึมเศร้าจากความเหงาเมื่อลูกไม่อยู่บ้าน

2 นาทีในการอ่าน
EMPTY NEST SYNDROME ซึมเศร้าจากความเหงาเมื่อลูกไม่อยู่บ้าน

แชร์

หลายคนอาจไม่เคยคาดคิดว่าความเหงาของคนวัยกลางคนเมื่อลูกไม่อยู่บ้านจะเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน โดยเป็นภาวะที่เรียกว่า Empty Nest Syndrome หรือภาวะรังที่ว่างเปล่า จะรู้สึกเหงา เศร้า เสียใจจากสาเหตุเมื่อลูกโตขึ้นและต้องออกจากบ้านไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง การเปลี่ยนแปลงที่มากและปรับตัวไม่ทันอาจทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวล อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่โรคซึมเศร้า และอาจร้ายแรงที่สุดคือการฆ่าตัวตาย โดยในไทยยังพบผู้เป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

รู้จัก EMPTY NEST SYNDROME

Empty Nest Syndrome หรือภาวะรังที่ว่างเปล่า คือ อาการที่เมื่อผู้ปกครองรู้สึกเหงา เศร้า เสียใจจากสาเหตุเมื่อผู้เป็นลูกโตขึ้นและต้องออกจากบ้านไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง โดยในช่วงแรกก็จะเกิดความรู้สึกเศร้า ซึ่งสาเหตุมาจากการที่ผู้ปกครองเองปรับตัวไม่ทัน ภาวะนี้สามารถเกิดได้กับทุกคนเมื่อลูกเติบใหญ่พอที่จะบินออกจากรัง

ภาวะนี้มักพบในกลุ่มผู้หญิงช่วงอายุ 40 – 50 ปีที่ลูก ๆ เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ลูกเกิดมาที่จะต้องห่างกัน โดยคุณแม่อาจนั่งอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมอะไรมาก แต่ก่อนต้องซักผ้า เก็บของให้ลูก ส่งลูกเรียนพิเศษ จนถึงวันหนึ่งเมื่อหันซ้ายหันขวาแล้วไม่รู้จะทำอะไรจึงเกิดอาการเศร้าและเบื่อหน่าย 

หากเกิดการเปลี่ยนแปลงมาก ๆ และปรับตัวไม่ทันจะทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวลได้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจนำไปสู่โรคซึมเศร้า และอาจไปถึงอาการของโรคที่ร้ายแรงที่สุดนั่นคือ การฆ่าตัวตาย โดยในไทยยังพบผู้เป็นโรคนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นอีกสถานการณ์หนึ่งในชีวิตที่พ่อแม่ต้องปรับตัว

 

ต้นเหตุโรคซึมเศร้า

หากอ้างอิงตามแนวทฤษฎีของคูเบลอร์ – รอสส์ จิตแพทย์ชาวสวิส – อเมริกัน เรื่องปฏิกิริยาความโศกเศร้าที่เกิดจากการสูญเสีย (Grieving Process) จะพบว่าการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักนั้นประกอบด้วย 5 ระยะ ได้แก่

  1. ปฏิเสธ ไม่ยอมรับ
  2. โกรธและแสดงการต่อต้านสิ่งที่เกิดขึ้น
  3. ต่อรอง พยายามหาสิ่งต่าง ๆ มาช่วยเปลี่ยนแปลง เนื่องจากยังไม่สามารถทำใจยอมรับได้
  4. ซึมเศร้า แสดงออกถึงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
  5. สงบและยอมรับการสูญเสียได้

 

Empty Nest Syndrome

 

ป้องกันรักษา Empty Nest Syndrome

การปรับตัวหรือเสริมภูมิคุ้มกันจากภาวะ Empty Nest Syndrome อาจทำได้โดยพ่อแม่ต้องหาเป้าหมายใหม่ในการใช้ชีวิต จากเป้าหมายเดิมที่มีหน้าที่ในการเลี้ยงลูกมาตลอด 20 – 30 ปีในตอนนั้น ต้องเปลี่ยนเป็นเรื่องการดูแลสุขภาพของตัวเองหลังจากนั้น เป็นต้น

การเติบโตขึ้นมาของคนคนหนึ่งต้องผ่านอะไรมากมายตั้งแต่การเป็นเด็กที่มีหน้าที่ต้องเล่น โตขึ้นมาก็ต้องเรียน เป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานแล้วสร้างครอบครัว มีลูก จนไปถึงจุดหนึ่งที่เข้าสู่วัยกลางคนและลูก ๆ ต้องออกไปผจญภัยด้วยตัวเองอย่างการไปเรียนมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด บ้านที่ว่างเปล่าและเงียบเหงาก็เริ่มขึ้น ผู้ปกครองหลายคนก็อาจเข้าสู่ภาวะ Empty Nest Syndrome 

บรรดาลูก ๆ ที่ออกมาจากรังของพ่อและแม่อาจต้องช่วยกัน อย่างง่ายที่สุดเพียงแค่โทรหาท่านวันละครั้งก็ยังดี เพราะขนาดเรายังเหงาและเศร้าได้ เราก็คงไม่อยากให้คนที่เรารักรู้สึกเช่นนั้นเช่นกัน

 

ในอีกมุมหนึ่งหากประเทศไทยสามารถพัฒนาระบบการศึกษาควบคู่กับยกระดับคุณภาพชีวิตได้ ความเหลื่อมล้ำก็อาจค่อย ๆ ลดลง ส่งผลให้เด็กจำนวนมากที่ต้องการไปศึกษาตามมหาวิทยาลัยชั้นนำในเมืองหลวงหรือตามจังหวัดใหญ่ ๆ กระทั่งคนทำงานที่ต้องย้ายออกจากบ้านเพื่อทำงานในเมืองใหญ่ได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้นก็เป็นได้


สอบถามเพิ่มเติมที่
ศูนย์จิตรักษ์ โรงพยาบาลกรุงเทพ
ชั้น 5 อาคาร C โรงพยาบาลกรุงเทพ
เปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.

แชร์